อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ต่อเนื่องจนถูกมองเป็นการหาคะแนนนิยม ว่า เวลานายกฯ ไม่ลงก็ว่าไม่ลงพื้นที่ แต่เวลานายกฯ ลงจะไปว่าทำไม อีกทั้งนายกฯ พูดชัดเจนว่าสนใจทำการเมืองต่อไปใช่หรือไม่ เหมือนที่ให้สัมภาษณ์ว่าหากไม่ไหวก็เลิก ฉะนั้นไม่แปลกอะไร ตนก็ลงพื้นที่ ช่วงนี้เสาร์ และอาทิตย์ให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ มองว่าเป็นเรื่องปกติ และดีด้วยที่จะลงพื้นที่ไปสร้างความคุ้นเคยหาเสียงหาคะแนนอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นอย่างนั้น มีใครไม่ลงพื้นที่บ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงปลายรัฐบาลจะมีการลงพื้นที่ถี่ขึ้นหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ใช่ แต่พอดีตนลงพื้นที่ตลอด ไม่ว่าต้นหรือปลาย เพราะในบริบท พรรค ภท. คิดเสมอว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงไม่เคยห่างพื้นที่ เมื่อถามว่า จะลงพื้นที่ กทม.มากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะลงในพื้นที่ที่ผู้สมัครเตรียมไว้ให้ลงทั่วประเทศ
เมื่อถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปรับคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ (กก.บห.) และประกาศจะกวาด ส.ส. 150 ที่นั่งหลังการเลือกตั้ง อนุทิน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะยังร่วมงานกับ พรรค พปชร.ได้เหมือนเดิมใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็ร่วมมืออยู่แล้ว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร เรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองทุกพรรคให้ความร่วมมือหมด วันนี้ต้องมั่นใจว่านักการเมืองทุกคนไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลมีเป้าหมายเดียวกันหมดคือประโยชน์ของบ้านเมือง ยึดแบบนี้ทำงานง่าย อยู่ตรงไหนก็ได้
เมื่อถามว่า พรรค ภท.ฝากเลี้ยงส.ส. ไว้ที่พรรค พปชร.หลายคนหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่มี พรรค ภท.มีเท่าที่มีอยู่ อนาคตเป็นเรื่องของอนาคต เกิดรัฐบาลอยู่ครบเทอมไม่มียุบสภา จะได้ไม่ต้องมาถามเรื่องฝากเลี้ยงที่ต้องใช้เวลาเป็นสมาชิกพรรค 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง เพราะไม่มี ส.ส.คนไหนคิดจะลาออกเพื่อย้ายพรรคหรอก
เมื่อถามว่า จะประกาศจับมือเป็นพรรคร่วมก่อนเลือกตั้งหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า พรรค ภท.เป็นพรรคที่ไม่เชื่อเรื่องการจับมือก่อน เพราะเคยได้บทเรียนจากการทำเช่นนั้นมาแล้ว พอเลือกตั้งเสร็จมีความผิดพลาดก็ไม่มีความหมาย ฉะนั้น ต้องอยู่บนความเป็นจริง จะคิดจะอ่านอะไรก็เมื่อผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการหลังปิดหีบเลือกตั้งออกมาแล้ว
"พูดแบบนี้ไม่ใช่จะจับหรือไม่จับ แต่ใครไม่เคยโดนสภาพนี้ไม่รู้หรอกเรามีบทเรียนมาก่อน เราอยู่ด้วยตัวเราเองทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องไปเที่ยวจับอะไรกับใคร ถ้าทำตัวให้ดีที่สุดเดี๋ยวก็มีคนมาชวนเราเอง ตรงนั้นแล้วเราค่อยพิจารณา สำหรับบทเรียนที่กล่าวมานั้นเป็นบทเรียนในอดีต เห็นหัวหน้าพรรคเก่าโดนอะไรมาก็จำเป็นบทเรียน พ่อตนเวลาทำธุรกิจโดนอะไรมา ทำการเมืองโดนอะไรมา ตนดูและจำว่าตนจะไม่ทำผิดพลาดตามอีกเพราะท่านมองโลกแง่ดีเกินไป ถือเป็นคุณสมบัติที่ดี แต่ดีเกินไปอยู่ในการเมืองไม่ได้" อนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า เชียร์ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. คนใดเป็นพิเศษหรือไม่ อนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า เก็บเอาไว้กับตัวเองดีกว่า และไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ กทม. อยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ จึงไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้