Skip to main content

ที่โรงเบียร์มิตรสัมพันธ์ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่าง แก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า’ ร่วมวงเสวนา ‘ก้าวต่อไปวงการเบียร์ไทย What’s Next’ ก่อนร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่ผลักดันโดยอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะมีการลงมติรับหรือไม่รับหลักการโดยสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 9 ก.พ. 65 นี้ โดยมีผู้ผลิตและผู้สนใจจากวงการเหล้าเบียร์มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นคึกคัก

เท่าพิภพ กล่าวว่า เนื้อหาของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับที่กำลังมีการลงมตินี้ หากผ่านและบังคับใช้เป็นกฎหมาย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ สามารถต้มเบียร์ได้ทั้งแผ่นดินจริงๆ ไม่ว่าใครก็ต้มเบียร์ทานที่บ้านได้ ส่วนในกรณีผลิตเพื่อการค้าก็ได้แก้ไขไม่ให้มีการจำกัดจำนวนการผลิตลงไป เพราะปัจจุบันยังมีการจำกัดด้านกรรมวิธีที่ห้ามเกิน 5 แรงม้า 7 แรงคน ในกรณีของการผลิตสุราชุมชน หรือการผลิตคราฟต์เบียร์ก็ต้องผลิตให้ได้จำนวนมาก เป็นข้อจำกัดของผู้ผลิตรายย่อย เช่น การทำเบียร์เพื่อบรรจุขวดจำหน่าย ถูกกำหนดเป็นกฎกระทรวงว่าต้องผลิตให้ได้ 10 ล้านลิตรต่อปี หรือถ้าเป็นโรงเบียร์เพื่อจำหน่ายไม่มีการบรรจุขวด จะต้องผลิตให้ได้ขั้นต่ำ 100,000 ลิตรต่อปี

สุราก้าวหน้า

“เรื่องนี้ถูกเขียนไว้ในระดับกฎกระทรวง เป็นอำนาจของฝ่ายบริหารซึ่งก็คือรัฐบาล ถ้าจะแก้ก็ง่ายมาก เพียงแต่เราไม่ใช่รัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้านทำได้แค่การแก้ไขผ่าน พ.ร.บ.เท่านั้น ดังนั้น ถ้าต้องการแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกล แลนด์สไลด์  ผมสัญญาว่าไม่เกิน 30 วัน เรื่องนี้จบ แต่ตอนนี้เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องผลักดัน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้สำเร็จ”  

จากนั้น เท่าพิภพ ได้เล่าบรรยากาศในสภาให้ผู้มาร่วมเสวนาฟังว่า สัปดาห์ก่อนทุกคนคงได้ยินข่าวสภาล่มเพราะองค์ประชุมไม่ครบ แต่วาระที่ต้องใช้องค์ประชุมขณะนั้นยังไม่ใช่การรับหรือไม่รับหลักการร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นกรณีเนื่องจากเมื่ออภิปรายจบ คณะรัฐมนตรีได้ขอนำกฎหมายไปศึกษาก่อนภายใน 60 วัน เมื่อรัฐบาลขอ สภาจึงต้องขอมติว่าจะให้รัฐบาลอุ้มร่างนี้ไปหรือไม่ ตนได้บอกต่อสภาว่าไม่ควรให้อุ้มไป เพราะเรื่องนี้เคยตั้งกระทู้ถามคณะรัฐมนตรี มี สันติ พร้อมพัฒน์  ซึ่งเป็นรัฐมนตรีมาฟังและตอบกระทู้ไปแล้ว ตอนนั้นเขาก็ตอบว่าจะขอนำกลับไปทำการบ้านใหม่ ผ่านมาหลายเดือนก็ยังจะขอไปทำการบ้านอีก นอกจากนี้ ในการประชุมของอนุกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ ก็มีหน่วยราชการมาให้ข้อมูลรับรู้เข้าใจตลอด ก็ต้องรายงานกระทรวงต้นสังกัด การขอเวลาไปศึกษาก่อนอีก 60 วัน จึงไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผล 

“เรื่องนี้เกี่ยวกับเจตจำนงทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมืองว่า ต้องการปลดล็อกการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ เส้นทางที่ดีที่สุดที่ผมอยากเห็นคือ วันพุธนี้สภาโหวตไม่ยอมให้ ครม.อุ้มกฎหมายนี้ไปอีก 60 วัน หรือรัฐมนตรีขอถอนวาระนี้ออกไป จากนั้นให้สภาโหวต ถ้าผ่านจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ ถ้าผมเป็นประธาน ประชุมแค่รอบเดียวก็พอ ปลายเดือนนี้สมัยประชุมนี้จะปิด แต่เปิดสมัยประชุมมาวาระนี้จะอยู่ลำดับต้นๆ ไม่เกินเดือนตุลาคม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะผ่านและมีผลบังคับใช้”

สุราก้าวหน้า

เท่าพิภพ ยังกล่าวถึงความเป็นมาของ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าว่า เกิดขึ้นตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่มีชื่อ ซึ่งได้จัดเวทีและตระเวนรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำเป็นนโยบายของพรรค วงเสวนารับฟังความคิดเห็นอย่างในวันนี้เกิดขึ้นบ่อยในช่วงนั้น ทั้งในกรุงเทพและทั่วประเทศ ตนโชคดีแค่มาอยู่ตรงนี้แล้วเป็นปากเป็นเสียงแทนทุกคน การเสวนี้ในตอนนี้ก็คือการปรึกษากันต่อว่าจะเอาอย่างไรต่อ ตอนนี้ทุกคนเป็นเหมือนคณะทำงานที่มาร่วมกัน 

สำหรับวงเสวนา ได้สะท้อนข้อกังวลว่า สิ่งที่อาจจจะเกิดขึ้นต่อไปแม้ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ผ่าน ก็อาจติดข้อจำกัดกฎหมายลูกเหมือนกรณีของกัญชา ดังนั้น สุดท้ายอยู่ที่รัฐบาลที่จะต้องมองการทำเรื่องนี้ให้เหมือนรัฐบาลเกาหลีที่ทำเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ เป็นวาระแห่งชาติ จึงจะเกิดขึ้นได้จริง นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงกฎหมายอื่นที่เป็นข้อจำกัดอนาคตธุรกิจเหล้าเบียร์ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ให้ดุลพินิจเจ้าหน้าที่มากเกินไปในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การสั่งปรับด้วยข้ออ้างการโฆษณา หลายคนโดนค่าปรับคือเพจที่มีลักษณะให้ความรู้ไม่ใช่การส่งเสริมทางการค้า เมื่อต้องการสู้คดีกลับโดนค่าประกันถึงหนึ่งแสนบาทซึ่งมากกว่าตำรวจขับรถชนหมอกระต่ายเสียชีวิตได้ประกันเสียอีก กฎหมายแบบนี้จะต้องการแก้ไข ขณะนี้ ร่างแก้ไขกฎหมายจากประชาชนได้เข้าสู่สภาแล้วเช่นกัน เป็นลำดับที่ 17 ที่กำลังรอการพิจารณา

เท่าพิภพ

“อยากให้ทุกคนมีหวัง พูดตรงๆว่า ก่อนหน้านี้ที่ทำเรื่องสุรา หลายคนบอกว่าสู้เรื่องแบบนี้ยาก ให้ไปพูดประเด็นอื่นดีกว่า แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเราเข้าใกล้สุดแล้ว อย่างช้าสัปดาห์เข้าสู่สภา จึงอยากบอกว่าอย่าท้อแท้ ต่อให้ต้องรอไปอีก  60 วัน ก็อย่าท้อ ผมอยากให้ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับนี้ เป็นฉบับเริ่มต้นของพวกเรา ต่อไปอาจมี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า 2.0 ,3.0 หรือ 4.0 พัฒนาต่อไปอีก แต่ไม่ว่าอย่างไร ผมเชื่อว่าสุดท้ายความฝันของพวกเราทุกคนจะเป็นจริง” เท่าพิภพ กล่าวทิ้งท้าย