'ไทยสร้างไทย' อัดรัฐ ปล่อยคนตัวเล็กทุกข์ซ้ำซ้อน ล่าสุด พบปัญหาเรื่องการจัดเก็บภาษีพ่อค้าแม่ขาย พรรคเล็งมอบทีมกฎหมาย ทำหนังสือด่วนถามสรรพากร หลังผู้ค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐ มาร้องเรียนว่าถูกรีดภาษีอย่างไม่เป็นธรรม
ประพนธ์ เนตรรังษี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตลาดพร้าว พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวโดยกล่าวถึงกรณีที่ผู้ค้าในตลาดอมรพันธ์ เขตลาดพร้าว มาร้องทุกข์กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจากถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีโดยไม่เป็นธรรมว่า
พรรคไทยสร้างไทย จะไม่ยอมให้คนค้าขาย คนตัวเล็ก ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการประกอบอาชีพ หลังจากได้รับการร้องเรียนผ่านประธานพรรคไทยสร้างไทย จากผู้ค้าในตลาดอมรพันธุ์แล้ว จะเร่งรัดให้ทีมกฎหมายของพรรค ร่างหนังสือด่วนที่สุดถึง อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการเรียกเก็บภาษี จากพ่อค้าแม่ขาย หลังเข้าร่วมโครงการของรัฐ เช่นโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ อย่างไม่เป็นธรรม ตามที่ผู้ค้ามาร้องเรียนกับคุณหญิงสุดารัตน์ จริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกเก็บภาษีจากยอดขาย ที่ได้เข้าร่วมทั้งสองโครงการ ผ่านธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ 20%-40% ของยอดขาย ทั้งที่การเรียกเก็บภาษีต้องเรียกเก็บจากกำไร ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางรายกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีโดยดูจากยอดเงินโอนเข้าในบัญชีธนาคารกรุงไทย แล้วนำมาคิดเป็นรายได้ทั้งหมด ทั้งที่เงินบางส่วนไม่ใช่เงินที่มาจากการค้าขาย แต่เป็นเงินที่มาจากการหยิบยืมแล้วถูกโอนเข้าบัญชีมา
เช่น กรณีของคุณกุ้ง แม่ค้าขายอาหารทะเลสด ถูกเรียกเก็บภาษีที่ร้อยละ 20 จากรายรับที่ถูกโอนเข้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย โดยเจ้าหน้าที่ ไม่ได้คำนวณ จากกำไรหลังหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้ผู้ค้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้ยินดีที่จะจ่ายภาษีให้กับรัฐก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาคือการเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม
หรือคุณฮวงแม่ค้าขายข้าวแกง ที่ระบุว่าตนเองถูกเรียกเก็บภาษี โดยคำนวณจากรายรับ ที่เป็นเงินผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งวิธีคิดเจ้าหน้าที่ไม่ได้คำนวณภาษีจากส่วนที่ได้กำไร หลังหักลบต้นทุน และไม่ได้คิดด้วยว่าในแต่ละวันจะมีข้าวแกงที่ขายไม่หมด ข้าวแกงที่เหลือทิ้งหรือเสียหายในแต่ละวัน ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุนทั้งสิ้น ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ที่เรียกเก็บภาษี ได้คำนวนเงินในบัญชี ส่วนที่ญาตพี่น้องโอนมา ให้เป็นค่ารักษาโรคมะเร็งของสามี เข้าไปอยู่รวมกับเงินที่ได้จากการค้าขายด้วย ซึ่งผู้ค้ามองว่าไม่เป็นธรรมกับคนทำมาหากิน คนหาเช้ากินค่ำ
และคุณปุณ พ่อค้าขายผลไม้ก็เป็นอีกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในลักษณะเดียวกัน เพราะวิธีการเก็บภาษี เจ้าหน้าที่ได้คำนวนจากรายรับสูงถึงร้อยละ 40 ของเงินที่เข้าบัญชี โดยไม่คำนวนจากส่วนที่พ่อค้าขายได้กำไร และไม่แจ้งล่วงหน้าว่าต้องนำหลักฐานใบเสร็จของต้นทุนมาแสดง จึงทำให้ผู้ค้าเกิดความเสียหาย
พรรคสร้างไทย จะติดตามเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพราะเข้าใจความทุกข์ยากของคนค้าขาย คนตัวเล็ก ที่นอกจากจะเจอปัญหา ต้นทุนของสินค้าสูงขึ้นทุกชนิดและทำให้ของแพง รายได้ และกำลังซื้อจากผู้บริโภคลดน้อยลงด้วยเช่นกัน ซ้ำร้ายยังถูกเรียกเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจะขอยืนเคียงข้างพี่น้องและพร้อมต่อสู้ เพื่อคนตัวเล็ก ไม่ทอดทิ้งพี่น้องในยามยากลำบาก