สมคิด เชื้อคง  ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างจริงใจ ทั้งประเทศอยู่ในสภาวะที่ข้าวยากหมากแพงและคนไทยต้องต่อสู้กับไวรัสโควิด-19  ในขณะที่การใช้งบประมาณของรัฐ หมดไปกับโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์กับรัฐบาล

ที่ผ่านมาเคยส่งสัญญาณเตือนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ถึงการจัดลำดับความสำคัญของการจัดการงบประมาณ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในสถานการณ์ที่คนกำลังจะอดตาย หลายครอบครัวไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ประเทศเป็นหนี้มหาศาล แต่รัฐบาลยังหลับหูหลับตาอนุมัติงบประมาณ 1.38 หมื่นล้านบาทให้ไปซื้อเครื่องบินรบมาประจำกองทัพอากาศ ถามว่าจะเอามารบกับใคร และจำเป็นเร่งด่วนแค่ไหน 

สมคิด กล่าวด้วยว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนว่าอะไรที่เป็นของกองทัพรัฐบาลจะหาทางอนุมัติอย่างเร่งด่วน ขอเพียงร้องขอมาพร้อมตอบสนองแม้กระทั่งใช้งบกลางซื้อรถถังก็ทำมาแล้ว แต่อะไรที่เป็นผลประโยชน์ประชาชนรัฐบาลกลับนิ่งเฉย กรณีเกษตรกรหมดตัวที่วัวเสียชีวิตจากลัมปีสกิน ผ่านมา 7 -8 เดือนยังไร้วี่แววการเยียวยาอย่างทั่วถึง เรื่องโรคระบาดหมูในไทยเป็นโรคที่เรียกว่าอหิวาต์แอฟริกาในสุกรหรือ “ASF”รัฐบาลปกปิดมานาน หากเป็นโจรไม่จำนนต่อหลักฐานคงไม่ยอมรับ

“ปัญหาทั้งหมดนี้ยืนยันว่าจะนำไปอภิปรายในมาตรา 151-152 ซึ่งพรรคเพื่อไทย รวบรวมข้อเท็จจริงหลายเรื่องที่จะอภิปรายให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลไม่สนใจใยดีต่อความเดือดร้อนของประชาชน ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา การบริหารของรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ซ้ำเติมประชาชนที่กำลังลำบาก ทุกอย่างขึ้นราคาหมด รัฐกลับไม่มีมาตรการดูแลประชาชน ดีแต่พูดไม่เคยทำได้จริง นอกจากนี้บรรดาลิ่วล้อที่ออกมาปกป้องพลเอกประยุทธ์ ทำเพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ไม่ได้หวังดีกับประชาชน หากทำเพื่อประชาชนจริงควรบอกให้พลเอกประยุทธ์ ลาอออก หรือยุบสภาก็ได้ เพราะประเทศเดินไม่ได้แล้ว ประชาชนไม่ทนกับความล้มเหลวของรัฐบาลอีกต่อไป” สมคิด กล่าว