Skip to main content

'ธีรรัตน์' ห่วงเด็กไทยเสี่ยงติดโควิด ชี้รัฐเร่งวางแผนก่อนเปิดสอบ-เปิดเรียน on site เป็นระบบ อย่ามัว work from home จนลืมว่าโรคระบาดไม่รอเวลา

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ขณะนี้มีการแพร่ระบาดง่ายขึ้น คนรอบตัวติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อโอมิครอนในกลุ่มเด็กที่ยังไม่สามารถเข้ารับวัคซีนได้ โดยพบว่าในสหรัฐมีเด็กต่ำกว่า 5 ขวบติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในสหรัฐ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 รายต่อผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 100,000 คน ขณะที่ในไทยเองเริ่มมีเด็กอ่อน 4 เดือน ติดเชื้อโควิดต้องเข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยหนัก ต้องเข้ารับออกซิเจน รวมถึงโรงเรียนระดับชั้นประถมในหลายพื้นที่มีเด็กที่ติดเชื้อโควิดจำนวนมากแต่โรงเรียนยังเปิดทำการสอนปกติ จึงไม่ทราบว่าขณะนี้นโยบายการสอนได้มีการปรับให้เท่าทันกับการระบาดของเชื้อโรคดีพอหรือยัง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเวิร์กฟอร์มโฮมอยู่หรือไม่ จึงยังไม่สนใจความเป็นอยู่ของเด็กอีกหลายล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มแรก

ธีรรัตน์ กล่าว อีกว่า ในไทยซึ่งกำลังจะจัดให้มีการสอบหลายระดับ ทั้งการจัดสอบโดย ทปอ. หน่วยงานเฉพาะทาง  และมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการจัดสอบอย่างถี่ถ้วน พร้อมกับเร่งประกาศให้เด็กและผู้ปกครองได้ทราบล่วงหน้าว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร หากเด็กที่มีความจำเป็นต้องสอบติดเชื้อโควิด ควรจัดสถานที่แยกให้ทำข้อสอบ หรือศูนย์สอบเฉพาะได้หรือไม่  จึงอยากให้ภาครัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

จากการบริหารที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาล  พรรคเพื่อไทยขออาสาทำงานไล่รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้นำของรัฐบาลที่อ่อนแอ ทำของแพงแต่เห็นชีวิตประชาชนราคาถูก ไม่สามารถดูแลปกป้องคุณภาพชีวิตที่ควรมี  จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจแสดงเจตจำนงให้เงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อให้ ‘เงินภาษี’ ของประชาชนไทย ช่วยพัฒนาพรรคการเมือง สนับสนุนการทำงานของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 034 สู่วันพรุ่งนี้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

ช่องทางการสนับสนุนการทำงานของพรรคการเมืองตามกฎหมายสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 

(1) การบริจาคให้พรรคการเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการค่าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 10,000 บาท โดยเงินบริจาคตัวนี้มีที่มาจากมาตรา 70 ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งกำหนดไว้ว่า ผู้บริจาคเงินแก่พรรคการเมืองมีสิทธินำจำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนหรือรายจ่ายเพื่อการบริจาคตามที่กำหนดในประมวลรัษฎากรได้ตามจำนวนที่บริจาคแต่ไม่เกิน 10,000 บาทสำหรับบุคคลธรรมดา   

(2) การอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้เสียภาษี ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 69 ระบุไว้ว่า ผู้เสียภาษีเงินได้ซึ่งมิใช่นิติบุคคลมีสิทธิแสดงเจตนาในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ให้รัฐนำเงินที่ตนได้เสียภาษีไว้ไปอุดหนุนพรรคการเมืองที่ตนระบุพรรคใดพรรคหนึ่ง ปีละ 500 บาท โดยเงินภาษีจำนวนนี้ผู้เสียภาษีไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่จะถูกหักจากเงินภาษีที่ต้องส่งให้กับกรมสรรพากร ซึ่งหมายความว่า การอุดหนุนเงินภาษีให้พรรคการเมืองด้วยวิธีการนี้  ไม่ได้ทำให้ผู้ประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษีให้พรรคการเมือง ต้องเสียภาษีมากขึ้น และไม่ทำให้ผู้ประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษี ได้รับเงินคืนภาษีน้อยลงแต่อย่างใด

“การอุดหนุนภาษีให้พรรคการเมือง ด้วยวิธีการที่ 2 คือช่องทางที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีทุกคนสามารถช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองได้ง่ายที่สุด โดยประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษี ต้องแสดงเจตนาผ่านการยื่นภาษีในแบบรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภงด.90 หรือ ภงด.91) สำหรับผู้ชำระภาษีประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษีให้กับพรรคเพื่อไทย สามารถระบุหมายเลข 034  โดยระบุจำนวนเงินไม่เกินภาระภาษีของตัวเอง และสูงสุดไม่เกิน 500 บาท” ธีรรัตน์ กล่าว