Skip to main content

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากคุณหญิงสุดารัตน์ ได้กลับจากอเมริกาเดินทางเข้าประเทศไทย ลงพื้นที่ภูเก็ตทันทีพร้อมด้วยแกนนำพรรคไทยสร้างไทย อาทิ โภคิน พลกุล, พงศกร อรรณนพพร, สามารถ แก้วมีชัย, นต.ศิธา ทิวารี รวมถึงคณะกรรมการนโยบายพรรคและทีมพรรคไทยสร้างไทย ร่วมกับภาคเอกชน ธนูศักดิ์ พึ่งเดช  ประธานหอการค้าภูเก็ต, ก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้, พชร เหลือละมัย นายกสมาคมโรงแรมบูติก, ไชยา ระพือพล ผู้บริหาร พัชทรีทัวร์, บุญโชติ กิตติสิทโธ ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในพื้นที่ 

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การทำให้ภูเก็ตกลับมายืนหนึ่งในการเป็นห้องรับแขกให้กับภูมิภาค  ต้องแก้ปัญหาหลายอย่างเนื่องจากมีขั้นตอนมากมาย  ในอเมริกา ลงจากเครื่องจะมีจุดฉีดวัคซีนฟรี ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก จึงอยากเสนอให้รัฐมีมาตรการระยะสั้น ลดขั้นตอนให้นักท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์บล็อก โดยตรวจฟรีโควิด รักษาฟรี มีประกันให้ ต้องลดเอกสาร ลดขั้นตอนในการเข้าประเทศ ใช้แอปพลิเคชันติดตามตัวนักท่องเที่ยวแทน ในการเข้าเมือง เพื่อให้ทันเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ให้คนไทยและผู้ประกอบการไม่เสียโอกาส 

ส่วนมาตรการระยะยาว พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าภูเก็ตต้องเป็น 'เขตเศรษฐกิจพิเศษทางการท่องเที่ยว' ที่มีกฎหมาย และงบประมาณของตัวเอง โดยมีวิสัยทัศให้ภูเก็ต 'เป็นออฟฟิศของคนทั้งโลก เป็นห้องรับแขกของภูมิภาค' ที่จะครอบคลุมการหารายได้ในทุกเรื่อง ทั้งศูนย์กลางการท่องเที่ยว กีฬา สุขภาพ  ประชุม การศึกษา เป็นต้น

โดยพรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าภูเก็ตควรมี 'กองทุนพัฒนาภูเก็ต' เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และช่วยเหลือภาคธุรกิจในภูเก็ต 

โภคิน กล่าวว่า วิธีจะเปลี่ยนประเทศไทยเปลี่ยนทั้งประเทศไม่ได้ ต้องเปลี่ยนในส่วนที่พร้อมคือการทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ผ่านมาท้องถิ่นอยู่ภายใต้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยกเว้นกรุงเทพฯ ที่จะอยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐมนตรี ไทยสร้างไทยจึงสนับสนุนคนตัวเล็ก ที่ผ่านมากฎหมายต่างๆ ไม่ตอบโจทย์ มีขั้นตอนยุ่งยาก ขอเสนอให้เป็น one stop service เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ 

นต.ศิธา กล่าวว่า ในสมัยที่เป็นประธานบอร์ดการท่าสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวได้ 6 ล้าน คน แต่ มีนักท่องเที่ยว 9-10 ล้านคน จึงได้มีนโยบายการขยายสนามบินเฟส 2 ทำให้ในปัจจุบันสนามบินภูเก็ตสามารถรองรับได้ถึง 12,000,000 คนต่อปีซึ่งยังคงไม่เพียงพอต่อศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงในอนาคต ประกอบกับในปัจจุบันรูปแบบการทำงานของบริษัทต่างๆ จะทำเป็นเวิร์กฟอร์มโฮม (WFH) เป็นส่วนใหญ่ โดยที่จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพ ที่จะดึงดูดคนทั้งโลกให้มาทำงานที่นี่ (Work From Phuket) ซึ่งภาครัฐควรจะสนับสนุนระบบสาธารณูปโภค และการอำนวยความสะดวกต่างๆเพื่อที่จะรองรับในส่วนนี้
 
ขณะที่ ธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าภูเก็ต กล่าวกว่า ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เป็นความหวังเป็นไอเดียที่ทำให้เราได้ไปต่อได้ เป็นการเปิดประตูภูเก็ต เพื่อประสบความสำเร็จระยะยาว จะทำให้เปิดการท่องเที่ยวอย่างอื่นได้ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 42,000 คนยังอยู่ในไทย 20,000 คน และอยู่ในภูเก็ตจำนวน 4,000 คน 
เรื่องสาธารณูปโภค น้ำไม่พอใช้ การเดินทางขนส่งยังเป็นปัญหา รถไฟฟ้ายังไม่คืบหน้าหากยังไม่ได้รับการแก้ไขแล้วเราอยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวอย่างสะดวกสบาย และอยู่อย่างปลอดภัย นอกจากนั้น ในวิกฤตโควิดควรสนับสนุนเงินกู้ เพื่อต่อลมหายใจ และแก้กฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการดำเนินธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการแล้วเสร็จ คุณหญิงสุดารัตน์ และคณะลงพื้นที่ป่าตองพบปะพูดคุยกับผู้กระกอบการโรงแรม ร้านค้า สถานบันเทิง เพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาและนำไปปรับปรุงเป็นนโยบายพรรคต่อไป