Skip to main content

นิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงผลการประชุมเรื่องกล่าวหา ทรงชัย นกขมิ้น ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กับพวกรวม 14 ราย กรณีจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัย ของอบต.ราชาเทวะ เมื่อปี พ.ศ. 2555  โดยจากการไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า นายก อบต.ราชาเทวะ ได้จัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าหอน้ำ พร้อมบันได ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 33,950,000 บาท และกำหนดคุณลักษณะ ของเครื่องสูบน้ำให้เป็น เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ  ซึ่งในขณะนั้นมีเพียง 2 ราย ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศของ อบต.ราชาเทวะ คือ บริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด ซึ่งบริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด เป็นบริษัทของพี่ชายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด ดังนั้น การกำหนดคุณลักษณะเครื่องสูบน้ำดังกล่าว จึงเป็นการมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และมีลักษณะกีดกันผู้ผลิตรายอื่นๆ

นิวัติไชย กล่าวว่า การประมูลซื้อนั้น มีผู้ผ่านการคัดเลือกให้เสนอราคา จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด บริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด ซึ่งผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย ได้เสนออุปกรณ์ปรับแรงดันสูงอัตราการไหลสูง (Regulator) เป็นรุ่นเดียวกันคือ Pressure regulator U 47 ผลิตจากประเทศเยอรมณี แต่ปรากฎว่าบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด ได้ใช้หนังสือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ปรับแรงดันสูงอัตราการไหลสูง (Regulator) ซึ่งเป็นเอกสารปลอมมาแสดงในวันยื่น และผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย มิได้มีการทดลองและสาธิตอุปกรณ์ดังกล่าวในวันยื่นซอง ซึ่งไม่เป็นไปตามเอกสารประมูลซื้อ แต่คณะกรรมการดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียด และกลับพิจารณาให้ผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งที่ ผู้ยื่น 3 รายดังกล่าวขาดคุณสมบัติ และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ได้จัดการประมูลโครงการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าพร้อมบันได ผลปรากฎว่าบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดในราคา 39,920,000 บาท และให้นายกอบต.ราชาเทวะทำสัญญากับบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด

นิวัติไชย กล่าวอีกว่า ยังปรากฎหลักฐานว่าทั้ง 3 บริษัทที่เสนอราคา มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน และตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ในทางธุรกิจและมีการว่าจ้างให้ยื่นซองประมูล คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ว่าการกระทำของทรงชัย นกขมิ้นและพวก มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157  ความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ จากนี้จะส่งสำนวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

 

ชี้มูล อดีต ส.ส เชียงใหม่ กับพวก ทุจริตล็อกสเปกโครงการสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู ของ อปท. จ.เชียงใหม่

นิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงผลการประชุมเรื่องกล่าวหาประสิทธิ์ วุฒินันชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ เขต 5 กับพวก ว่าทุจริตโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู สตรีทซอกเกอร์ (สนามหญ้าเทียม) ปีงบประมาณ 2556 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อ.ฝางและอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่จำนวน 15 แห่ง งบประมาณรวม 30 ล้านบาท ว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริง พบว่าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ดังกล่าว ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไปยังสำนักงบประมาณตามลำดับ โดยประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส. เชียงใหม่ ในขณะนั้น ได้นำกลุ่มบริษัทของอัมพวัน แก้วนพมาศ เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.ฝางและอ.แม่อาย จ.เซียงใหม่ โดยประสิทธิ์ วุฒินันชัย ได้เรียกรับเงินตอบแทนจากกลุ่มบริษัทของอัมพวัน จำนวนร้อยละ 25 ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เป็นเงิน 7.5 ล้านบาท ในขั้นตอนการของบประมาณ ขั้นตอนการจัดทำคุณลักษณะและราคากลางสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู

นิวัติไชย กล่าวอีกว่าประสิทธิ์ ได้กำหนดให้ใช้คุณลักษณะเฉพาะและราคากลางการก่อสร้างที่อัมพวัน ซึ่งได้ร่วมกับฐิตารีย์ ศิริคะเณรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองย่า อินเตอร์เทรด จำกัด กำหนดคุณลักษณะเฉพาะ ทั้งความยาวของใบหญ้าเทียม 6 เซนติเมตร ซึ่งโดยทั่วไปความยาวของใบหญ้าเทียมจะมีความยาวเพียง 5 เซนติเมตร ,แผ่นพื้นหญ้าเทียม จำนวนรวมการทอฝีเข็มไม่น้อยกว่า 12,000 ฝีเข็มต่อตารางเมตร ซึ่งทั่วไปจะมีจำนวนการทอฝีเข็มไม่น้อยกว่า 8,000 ฝีเข็มต่อตารางเมตรเท่านั้น และกำหนดให้มีการเคลือบกาวพียู โดยทั่วไปจะไม่มีการเคลือบกาวดังกล่าว ซึ่งเป็นการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะที่เป็นการกีดกันผู้เสนอราคาอื่น ให้ไม่สามารถเข้ายื่นเสนอราคาได้ เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 15 แห่ง ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้ว จากนั้นมีการกำหนดราคากลางที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริงประมาณสนามละ 1 ล้านบาท ผู้บริหารท้องถิ่น จำนวน 15 แห่ง ดังกล่าว ได้อนุมัติ

นิวัติไชย  กล่าวต่อว่า คณะกรรมการกำหนดราคากลางเสนอ และในขั้นตอนการยื่นเสนอราคา อัมพวัน แก้วนพมาศ ร่วมกับฐิตารีย์ ศิริคะเณรัตน์ ได้นำกลุ่มบริษัทของตนเอง ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงทุนและเครือญาติ เข้ามาเสนอราคา อีกทั้ง มีการนำเงินไปจ่ายให้แก่เอกชนอื่นที่เข้ามาซื้อหรือรับซองเสนอราคา เพื่อไม่ให้เอกชนรายอื่นเข้ายื่นเสนอราคาและผลปรากฎว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 15 แห่ง ได้ทำสัญญาจ้างก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ฟุตบอลโกลหนู กับกลุ่มบริษัทอัมพวัน แก้วนพมาศ ในวงเงินตามสัญญาที่สูงกว่าความเป็นจริง เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 15 ล้านบาท อีกทั้งปรากฎข้อเท็จจริงต่อมาว่าอัมพวัน แก้วนพมาศ ได้จ่ายเงินให้กับประสิทธิ์ ครบจำนวน 7.5 ล้านบาท ตามที่ได้ตกลงไว้

นิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า การกระทำของประสิทธิ์ วุฒินันชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส. เขต 5 จังหวัดเชียงใหม่ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 5 และมาตรา 13

นิวัติไชย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ป.ป.ช. ยังชี้มูลความผิดการกระทำของผู้บริหารท้องถิ่น จำนวน 10 ราย ที่กำหนดคุณลักษณะและราคากลาง ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ,การกระทำของคณะกรรมการกำหนดราคากลาง จำนวน 21 ราย และกรณีกลุ่มเอกชน จำนวน 6 ราย ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงทุนและเครือญาติ ได้ร่วมกันเข้าเสนอราคาในลักษณะเป็นการสมยอมในการเสนอราคาด้วย จากนี้  จะส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และส่งรายงาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการกับผู้ถูกกล่าวหาแล้วแต่กรณีต่อไป