ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แซงหน้าอินเดีย เนื่องจากวัคซีนหลักที่ฉีดไปแล้วไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ประเทศที่ฉีดวัคซีน mRNA เป็นหลัก เช่น อิสราเอล มีผู้ติดเชื้อป่วยหนักน้อยกว่าประเทศที่ฉีดวัคซีนตัวอื่นเป็นหลัก 

วัคซีนคือความหวังที่จะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด

สำนักข่าว CNN รายงานว่า อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตารายใหม่ 54,517 รายในวันเดียว รวมถึงผู้เสียชีวิต 991 ราย ในวันที่ 15 ก.ค. แซงหน้าสถิติรายวันในอินเดีย และส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็น 'จุดเสี่ยงใหม่' ในเอเชียที่ต้องเฝ้าระวังด้านการแพร่ระบาดของโรคโควิด

โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ระบุว่า การฉีดวัคซีนคือความหวังเดียวที่จะทำให้ประเทศฟื้นตัวจากวิกฤตด้านสุขภาพระดับโลกในครั้งนี้ แต่ยอมรับว่าการกระจายวัคซีนไปยังประชาชนยังมีข้อจำกัด และมีผู้ฉีดวัคซีนแล้วเพียง 5.5% ของประชากรทั้งหมดกว่า 270 ล้านคน อีกทั้งวัคซีนหลักที่ฉีดก็ไม่มีผลป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินโดนีเซียเพิ่งได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 3.5 ล้านโดสเมื่อวันที่ 13 ก.ค. โดยได้จากโครงการกระจายวัคซีน COVAX ที่ร่วมกับสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการันตีว่าทุกประเทศทั่วโลกจะต้องได้รับวัคซีนโควิดอย่างถ้วนหน้า

อิสราเอลไม่ล็อกดาวน์ เชื่อมั่นคุมการแพร่ระบาดได้ในเร็วๆ นี้

นัฟทาลี เบนเน็ต นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ได้โดยไม่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่มีคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร รวมถึงหลีกเลี่ยงการจับมือ จูบ หรือสวมกอดทักทายผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัว และย้ำว่าจะปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว

สำนักข่าว AP รายงานว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในอิสราเอลเมื่อ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา สูงกว่า 700 รายต่อวัน ซึ่งเข้าข่ายการแพร่ระบาดรอบใหม่ แม้ว่าอิสราเอลจะฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วกว่า 5.7 ล้านราย จากจำนวนประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่อาการผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมด "ไม่ร้ายแรง"

เกาหลีใต้ยกระดับมาตรการคุมโควิด พร้อมขออภัยประชาชนที่วัคซีนล่าช้า

จองอึนคยอง ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) แถลงขออภัยประชาชนเมื่อ 15 ก.ค. หลังเว็บไซต์ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่ม กระทบต่อประชากรกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุระหว่าง 55-59 ปี ทำให้การกระจายวัคซีนล่าช้าราวหนึ่งสัปดาห์ โดยจองยืนยันว่ารัฐบาลกลางได้สั่งซื้อวัคซีนในปริมาณเพียงพอกับจำนวนประชากร แต่การเจรจาเรื่องจัดส่งยังไม่บรรลุข้อตกลง

สำนักข่าว Reuters รายงานว่าเกาหลีใต้ยังประสบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้น โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1,615 รายเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ส่วนใหญ่พบในกรุงโซล ทำให้รัฐบาลประกาศให้โรงเรียนที่อยู่ในโซลกลับไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์อีกครั้ง และยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันโควิดเข้าสู่ระดับที่ 4 ระดับสูงสุด สั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนเกิน 2 คนหลังจากเวลา 18:00 น. และพื้นที่รอบนอกกรุงโซลให้ใช้มาตรการระดับ 2 ห้ามประชาชนรวมตัวเกิน 8 คน และสั่งให้ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 24:00 น.

ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนให้ 30.6% ของประชากรราว 52 ล้านคน และการกระจายวัคซีลดลงจากสถิติ 850,000 รายต่อวันในเดือน มิ.ย.เหลือเพียง 30,000 รายต่อวันในเดือน ก.ค. เนื่องจากประสบปัญหาจัดส่งวัคซีนล่าช้า แต่สถิติผู้ติดเชื้อสะสมในเกาหลีใต้ก็ยังถือว่าน้อยกว่าอีกหลายประเทศ อยู่ที่ 171,911 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 2,048 ราย เนื่องจากเกาหลีใต้ใช้วิธีตรวจคัดกรองแบบปูพรมและแยกผู้ป่วย-ผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรักษาอาการได้อย่างรวดเร็ว

รัสเซียยอมรับ 'สปุตนิกวี' ไม่มีผลป้องกันสายพันธุ์เดลตา

เว็บไซต์ Moscow Times สื่อของรัสเซีย รายงานว่าผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในรัสเซียเพิ่มสูงถึง 23,827 รายในวันเดียว และผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด 786 รายเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา สามารถติดต่อง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และวัคซีนป้องกันโควิด 'สปุตนิกวี' ไม่มีประสิทธิภาพพอจะป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าว ทำให้สถิติผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก กว่า 400,000 ราย

รัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึงกรุงมอสโก ออกคำสั่งจำกัดการเดินทางของประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และประกาศเร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรการแพทย์และคนในแวดวงบริการ แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ