ศูนย์ข่าวการแพทย์และสุขศึกษาแห่งประเทศลาว เผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์แจ้งชาวต่างชาติที่พำนักในลาวขณะนี้ว่าสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เช่นเดียวกับพลเมืองลาว โดยกลุ่มแรกที่มีสิทธิได้รับฉีดวัคซีน 'ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค' ได้แก่ ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งพำนักอยู่ในลาว และมีโรคประจำตัว โดยสามารถนำหนังสือเดินทาง หลักฐานแสดงการพำนักอาศัยในลาว และผลตรวจสุขภาพไปยืนยันเพื่อขอรับวัคซีนป้องโควิดในลาวได้
ทั้งนี้ ทางการลาวกำลังจะจัดฉีดวัคซีนโควิดรอบ 2 ระหว่างวันที่ 15-25 มิ.ย. โดยบุคคลทั่วไปและชาวต่างชาติ ซึ่งรวมถึงคนไทยในลาว จะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันใดๆ แต่ให้นำเอกสารที่ระบุไว้ข้างต้นไปยังจุดที่รัฐบาลลาวกำหนดให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออายุเกิน 60 ปีจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์
ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนในประเทศไทยมีความสับสนเกิดขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนจำนวนหนึ่งแจ้งกับประชาชนที่ลงทะเบียนรับฉีดวัคซีนโควิดว่า ทาง รพ.ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาล จำเป็นต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปจากกำหนดเดิม
กรณีดังกล่าวทำให้นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวว่า กรมควบคุมโรคได้กระจายวัคซีนตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ไปแล้ว หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร เป็นผู้บริหารจำนวนวัคซีน กรณีโรงพยาบาลในพื้นที่ กทม.เลื่อนฉีดเพราะไม่ได้รับวัคซีนนั้นจะต้องไปสอบถามข้อมูลจากสำนักอนามัยกรุงเทพฯ ว่าจัดสรรให้แต่ละแห่งอย่างไร
หลังจากนั้นไม่นาน เพจเฟซบุ๊ก @prbangkok กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ข้อมูลเรื่องการจัดวัคซีนโควิดเมื่อเวลาประมาณ 16:00 น.วันที่ 13 มิ.ย. แต่ข้อมูลไม่ตรงกันกับที่อธิบดีกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ก่อนหน้านี้ โดย กทม.ชี้แจงว่าแผนการจัดสรรวัคซีนของ สธ. ระบุว่า กทม.จะต้องได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2.5 ล้านโดสในเดือน มิ.ย. แต่วัคซีนที่ใช้ฉีดเมื่อวันที่ 7-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา กทม.ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 3.5 แสนโดส และวัคซีนของซิโนแวค 1.5 แสนโดส ซึ่งในเดือน มิ.ย.นี้ ผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมในกรุงเทพฯ มีทั้งสิ้น 4.5 แสนราย จึงย้ำว่า กทม.พร้อม สถานที่พร้อม บุคลากรพร้อม และหาก "วัคซีนพร้อม" ตามแผน กทม.ก็จะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที ขณะที่ ศบค.ยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลใดเพิ่มเติม
กทม.ได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า การจองฉีดวัคซีนผ่านระบบ 'หมอพร้อม' เป็นการเปิดให้ รพ.ทุกแห่งในกรุงเทพฯ มาช่วยกันฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่เปิดพร้อมกันทั้งประเทศ ดังนั้น กทม.จึงไม่ใช่ผู้ควบคุมและไม่ใช่ผู้ที่จัดสรรวัคซีน