Skip to main content

วันนี้ (30 ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ ที่บัญญัติว่า นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่

โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติว่า แม้ผู้ถูกร้องจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติมาตรา 159 ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งจะต้องแต่งตั้งตามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้ความเห็นชอบเกินกว่ากึ่งหนึ่งตามบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง แต่นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ววรคหนึ่ง 

และเมื่อรัฐธรรมนูญปี 2560 ประกาศใช้แล้วก็ให้ถือว่าเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 6 เมษายน 2560 ตามที่ประกาศใช้  จึงวินิจฉัยได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญ 2560 คือกฎหมายย่อมมีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันประกาศใช้ ศาลมีมติเสียงข้างมากว่าการดำรงตำแหน่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 6 เมษายน 2560 และยังดำรงตำแหน่งไม่ครบตามเวลา

'ประยุทธ์' เคารพคำตัดสินศาล รธน. ขอบคุณทุกกำลังใจ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า ตนขอแสดงความเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน สำหรับกำลังใจและความปรารถนาดีที่มอบให้มาโดยตลอด และจะใช้ความพยายาม และศักยภาพอย่างเต็มที่ มุ่นมั่นพลิกโฉมประเทศตามกลยุทธ์ 3 แกน ที่ได้เคยกล่าวไว้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เราเดินหน้ามาไกลและถูกทิศทางแล้ว เราต้องช่วยกันทำให้เสร็จ