นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินหรือ EOC ว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มจะสูงขึ้นกว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาพอสมควรจากรายงานติดเชื้อ 194 ราย โดยมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหามากนักเนื่องจากมีประสบการณ์ในการควบคุมโรคผู้ต้องกักในสถานที่กักบางเขนและมีการใช้ Bubble and Seal เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดี

นพ.โอภาส กล่าวว่า การระบาดในสถานบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักเที่ยว พนักงาน นักดนตรีในพื้นที่รอบๆ กรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงพนักงาน ได้เดินทางไปหลายจังหวัดไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่น, ชลบุรี, และที่อื่นจะต้องมีมาตรการเข้มข้นประกอบกับช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์จึงมีการประชุมคณะกรรมการวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการห้ามการเดินทาง แต่ให้พื้นที่คุมเข้ม อสม.เฝ้าระวังเคาะประตูบ้านคนมาจากพื้นที่เสี่ยง รพ.หากพบผู้มีอาการต้องสงสัยให้ซักประวัติละเอียดโดยเฉพาะการไปสถานบันเทิง และให้ตรวจหาโควิด และมาตรการที่จำเป็น อย่างไรก็ตามรายละเอียดให้ฟังจากประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังให้สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองให้บริการประชาชนไม่เว้นวันหยุด

"ที่ประชุมมีมติมีการปรับเพื่อการควบคุมโรคดังนี้ จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, นครปฐม พื้นที่ควบคุมสีส้มมี 9 จังหวัด ประกอบด้วยสมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ชุมพร, ตาก, ราชบุรี, ชลบุรี, สุพรรณบุรี, นราธิวาส, และกาญจนบุรี ส่วนจังหวัดเฝ้าระวังสูง สีเหลือง มี 10 จังหวัด ประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครนายก, ฉะเชิงเทรา, เพชรบุรี, ระนอง, ระยอง, สงขลา, ยะลา, ขอนแก่น, และที่เหลืออีก 53 จังหวัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง สีเขียว" นพ.โอภาส กล่าว 
.
จังหวัดสีแดง กำหนดว่าร้านอาหารเปิดไม่เกิน 21.00 น. รับประทานอาหารในร้านได้ แต่งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนสถานบันเทิง เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. รับประทานอาหาร ได้แต่ห้ามดื่มสุรา ห้ามจำหน่าย จ่าย แจกเนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่าความเสี่ยงอยู่ที่สถานบันเทิงผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงการดื่มสุราจึงต้องเข้มงวด ส่วนศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตามปกติ แต่ต้องดำเนินการแบบ New Normal คือสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การสแกนวัดอุณหภูมิ การสแกนแอพพลิเคชัน 'ไทยชนะ' และอื่นๆ ที่มี ส่วนสถานศึกษาให้เปิดได้ตามปกติ ส่วนสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส เปิดได้ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม โดยเฉพาะผับ บาร์ ในกรุงเทพฯ จะมีการคัดกรองให้ครบถ้วน จากการประสานเบื้องต้น ในกรุงเทพฯ มีอยู่ประมาณพันกว่าแห่ง จะมีการจัดระบบเฝ้าระวังให้สม่ำเสมอ ออกตรวจถี่ขึ้น

จังหวัดสีส้ม ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. รับประทานอาหาร ดื่มสุราได้ ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์เปิดไม่เกิน 23.00 น. ดื่มสุราได้ แสดงดนตรีสดในร้านได้แต่งดเต้นรำ งดกิจกรรมที่มีการเบียดเสียดยัดเยียด ส่วนห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานออกกำลังกายเปิดได้เช่นเดิม 

จังหวัดสีเหลือง เปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. รับประทานทานอาหารได้ ดื่มสุราได้ ผับ บาร์ คาราโอเกะเปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. แสดงดนตรีสดได้ ดื่มสุราได้ รับประทานอาหาร ได้แต่งดเต้นรำ

พื้นที่เฝ้าระวังสีเขียว 53 จังหวัดเปิดได้ตามปกติโดยดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการควบคุมโรค

ทั้งนี้ จะมีการเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันที่ 7 เม.ย. นี้ โดยมาตรการนี้จะดำเนินการ 2 สัปดาห์ และประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการบังคับอย่างไร แต่ความร่วมมือของประชาชนสำคัญมาก เพราะบางคนห้ามดื่มในร้านแต่ก็ไปปาร์ตี้ต่อที่บ้านซึ่งทำได้แต่ก็จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคุมได้ยาก ดังนั้นความร่วมมือของประชาชนมีความสำคัญมาก