ป่าอาหาร (Food Forest) ของแอตแลนตา ในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นป่าแห่งแรกที่มอบผลผลิตที่สดใหม่ให้กับทุกคนในชุมชน โดยทุกคนสามารถเข้าถึงผักและผลไม้เหล่านี้ได้ฟรี และนี่คือส่วนหนึ่งของแผนการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร

‘ความไม่มั่นคงทางอาหาร’ เป็นปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา ที่หลายรัฐมีความพยายามหาทางแก้ไขและป้องกันปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงทางอาหาร โดยที่ เมืองแอตแลนตา สามารถทำได้สำเร็จ ด้วยการพัฒนาพื้นที่มากกว่า 7 เอเคอร์ หรือราว 17 ไร่เศษ ซึ่งเคยเป็นฟาร์มพีแคนในย่านบราวนส์มิลล์ ให้กลายเป็นพื้นที่ “ป่าอาหาร” ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

ป่าอาหาร หรือ Food Forest แห่งนี้ ทำการปลูกพืชและเห็ดปลอดสารพิษมากกว่า 2,500 ต้น ผลิตผลไม้ ผัก และถั่วชนิดต่างๆ สำหรับผู้คนด้อยโอกาสในชุมชนบราวนส์มิลล์ ซึ่งอยู่ย่านตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง โดยมีรายงานว่าผู้อยู่อาศัยประมาณ 1 ใน 3 ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เป็นคนยากจน และร้านขายของชำที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างออกไปมากกว่า 30 นาทีหากเดินทางด้วยรถบัส

“การเข้าถึงพื้นที่สีเขียวและอาหารเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก และนั่นคือส่วนหนึ่งของภารกิจที่เราต้องทำ” ไมเคิล แมคคอร์ด รุกขกร หรือหมอต้นไม้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดสวนที่ช่วยจัดการดูแลป่าอาหารแห่งนี้ กล่าว

ป่าอาหารแห่งนี้ ถือเป็นป่าอาหารของรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ที่ไม่เพียงแต่มีพื้นที่เพาะปลูกเพื่อผลิตอาหารเท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยสวนสาธารณะชุมชน ทางเดิน และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับคนในชุมชนทุกคน นอกจากนี้ พืชทุกชนิดที่ถูกปลูกลงไปจะอยู่ในการดูแลของคนในชุมชน โดยที่คนในชุมชนจะทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยดูแลรักษาป่าอาหารของพวกเขา ซึ่งการช่วยกันดูแลรักษาป่าอาหารนี้เอง คือ ข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของป่าไม้ในการก่อร่างสร้างชุมชนขึ้นมา

คาร์ลา สมิธ สมาชิกสภาเมืองแอตแลนตา ระบุว่า ป่าอาหารแห่งนี้คือสวนสาธารณะสำหรับทุกคน

“ทุกครั้งที่มาที่ป่าอาหารแห่งนี้ ฉันจะได้พบกับชุมชนที่ให้ความเคารพและชื่นชมอาหารสดใหม่เพื่อสุขภาพ และทุกคนรู้ว่าพวกเขาจะต้องเก็บผลผลิตเท่าที่ต้องการเท่านั้น ไม่มีการเก็บเกินความต้องกรหรือเบียดเบียนคนอื่น” สมาชิกสภาเมืองแอตแลนตา กล่าว

หากคนในชุมชนมาเก็บผลผลิตไม่หมด พวกเขาก็จะทำการแจกจ่ายไปให้กับคนในชุมชนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอาหารเหลือทิ้ง นอกจากนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังจัดอบรมเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมกับชุมชนในเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมจัดชั้นเรียนทำสวนและทำอาหาร เช่นเดียวกับเปิดป่าอาหารให้ผู้สนใจได้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย

ปัจจุบันนี้ สหรัฐฯ มีป่าอาหารที่คล้ายคลึงกันนี้ราว 70 แห่งทั่วประเทศ โดยพยายามฟื้นฟูสมดุลของห่วงโซ่อาหารที่ถูกทำลายไป และจัดหาอาหารจากพืชผักที่ส่งผลดีต่อสุขภาพให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เช่น โปรเจ็กต์ The Food Empowerment ในนิวยอร์ก และโปรเจ็กต์ธนาคารอาหารในลาสเวกัส เป็นต้น

อ้างอิง
เฟสบุ๊กโครงการ Urban Food Forest at Browns Mill
The Urban Food Forest at Brown Mill
Urban Food Forest at Browns Mill
ATLANTA INVESTS IN THEIR COMMUNITY WITH A 7-ACRE FOOD FOREST
Atlanta creates the nation’s largest free food forest with hopes of addressing food insecurity
Atlanta Has Created the Largest Free Food Forest in the Country