Skip to main content

 

Libertus Machinus
 


เวลาพูดถึงเมืองไทย หลายคนอาจจำว่า เป็นสวรรค์ของ Digital Nomad แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านี้เริ่มย้ายไปที่อื่นที่ "ค่าครองชีพถูกกว่าไทย" อย่างบาหลีแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ชอบเมืองไทย เพราะอย่างน้อยเมืองที่ค่าครองชีพต่ำและเต็มไปด้วยสินค้าและบริการสำหรับชาวต่างชาติอย่างเชียงใหม่ ก็ยังดึงดูดต่างชาติอยู่ แต่อาจเป็นแบบที่ต่างออกไป และในกรณีนี้เป็นอดีตพนักงาน Google วัย 39 ปี

Shau Chun Chen อยู่สิงคโปร์มาตลอดชีวิต และทำงานที่ Google มาเกือบ 10 ปี เขาโดนเลย์ออฟในช่วง The Great Tech Layoff หรือช่วงการเลย์ออฟครั้งใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก โดย Chen โดนให้ออกจากงานไปช่วงต้นปี 2024

แน่นอน ตอนแรกเค้าก็เรียกว่า "ไปไม่ถูก" เหมือนกัน แม้ว่าเค้าจะทำงานและเก็บเงินลงทุนไว้ได้ราว 50 ล้านบาท แต่ด้วยค่าครองชีพสิงคโปร์และอายุของเค้า เงินเท่านี้ไม่พอกินไปตลอดชีวิตแน่นอน เค้าต้องหาวิธีใหม่ในการจัดการชีวิต พร้อมทั้งยอมรับว่าคงไม่มีงานไหนที่จะให้เงินเค้าได้เท่าที่ Google อีกแล้ว และในวัย 30 ปลาย งานก็ไม่ได้หาง่าย

เค้าเลยเกิดไอเดียว่าจะทำงานพาร์ตไทม์ที่สิงคโปร์ และอาศัยอยู่ในที่ๆ ค่าครองชีพถูกกว่าในระดับที่เงินของการทำงานพาร์ตไทม์เพียงพอ ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดี โดยส่วนหนึ่งเค้าก็หาเงินออนไลน์เป็น YouTuber และเป็นโค้ชธุรกิจตามที่มีการว่าจ้าง แต่งานหลักของเค้าคือเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ที่รายได้ตกเดือนละ 50,000-100,000 บาท แล้วแต่ว่าสอนกี่วิชา

แน่นอน ในสามัญสำนึกคนปกติ ถ้าทำงานแบบต้องเข้าไปทำงานที่มหาวิทยาลัย ก็ต้องอาศัยอยู่ตรงนั้น ปัญหาคือเงิน 50,000 บาทต่อเดือน มันไม่พอเลี้ยงครอบครัวที่สิงคโปร์แน่ๆ หรือเลี้ยงตัวเองยังยากเลย เค้าเลยเลือกจะย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เพราะอยู่เชียงใหม่ รวมค่าเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์กับค่าเช่าคอนโด ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าคอนโดที่สิงคโปร์เลย

 

 

 

อธิบายสั้นๆ Chen บอกว่า ถ้าอยู่สิงคโปร์ ค่าเช่าคอนโดตกประมาณ 60,000 บาทต่อเดือน เงินเดือนอาจารย์ไม่พอค่าเช่าแน่ๆ แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่ เช่าคอนโดใหม่เอี่ยมสุดหรูอยู่กับครอบครัว 12,000 บาทต่อเดือนได้สบายๆ ค่าเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์เพื่อไปสอนก็บินสายการบินโลว์คอสต์ไป อาทิตย์ละ 6,500 บาท คิดว่าเดือนละ 4 ครั้งก็ตก 26,000 บาท รวมค่าที่พักกับเครื่องบิน 38,000 บาทก็ถูกกว่าค่าคอนโดที่สิงคโปร์ โดยค่าเดินทางของเค้ากับภรรยาในเชียงใหม่ เค้าตีเป็น 5,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าอาหารคิดกลมๆ ก็เริ่มที่ 7,000 บาทไปเต็มที่ก็ไม่เกิน 12,000 บาทต่อเดือน

จะเห็นเลยว่าแบบประเมินขั้นต่ำ รายได้ 50,000 บาทจากการสอนหนังสืออาทิตย์ละ 3 ชั่วโมงที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ พอดีค่าเช่า ค่าอาหาร ค่าเดินทางในเชียงใหม่ และค่าเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์อาทิตย์ละครั้งแบบเป๊ะๆ ซึ่งแน่นอน นี่เป็นรายจ่ายที่ดูตึงพอควร แต่ถ้านับรวมว่าเค้ามีรายได้จากการเป็นโค้ชธุรกิจด้วย และมีพอร์ตลงทุนสะสมมูลค่าอีก 50 ล้านบาทสำรองอยู่ ทั้งหมดเรียกได้ว่าดูดีทีเดียว

ความน่าสนใจคือ Chen บอกว่าพวกชาวต่างชาติในเชียงใหม่ไม่ได้อยู่ในราคาถูกเท่าเค้า เพราะพวกเค้าเหล่านั้นเลือกจะซื้อสินค้าและบริการแบบ "นำเข้า" ซึ่งรวมๆ คือเชียงใหม่ก็ไม่ได้ถูกกว่าที่อื่น เค้าบอกว่าจะใช้ชีวิตให้ย่อมเยาจริงๆ ต้องกินอยู่แบบคนท้องถิ่น ซึ่งจะเรียกว่าต้อง "เรียนรู้วัฒนธรรม" ก็ไม่ผิด

แน่นอน Chen ก็คงไม่ต้องปวดหัวกับการต่อวีซ่า เพราะเค้าเข้าออกไทยเรื่อยๆ และพาสปอร์ตสิงคโปร์คืออยู่ไทยได้ 60 วัน แต่ในระยะยาว เค้าก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดที่สิงคโปร์ เพียงแต่เค้าอาจต้องรอเงินลงทุนให้โตขึ้นอีกเยอะๆ  เพราะนี่คือประเทศที่ค่าครองชีพสูงระดับคนที่มีเงินทุน 50 ล้านบาทยังรู้สึกว่าตัวเองยังห่างไกลจากการมีอิสรภาพทางการเงิน

 

อ้างอิง
He lives in Thailand but ‘supercommutes’ to Singapore—living off what he makes from 3 hours a week
 

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน