Skip to main content

 

ในอนาคต เราอาจมียาหยอดตาที่ช่วยแก้อาการ “สายตายาว” ซึ่งจะทำให้การมองเห็นระยะใกล้ทำได้ดีขึ้น หรืออาจจะมาแทนที่แว่นสำหรับคนสายตายาวเพื่อใช้ในการอ่านหนังสือ

งานวิจัยใหม่ซึ่งนำเสนอในการประชุมวิชาการ Congress of the European Society of Cataract and Refractive Surgeons (ESCRS) ครั้งที่ 43 ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ระหว่างวันที่ 12 ถึง 16 กันยายน 2025 ศึกษาเกี่ยวกับภาวะสายตายาว และการคิดค้นยาหยอดตาที่ช่วยให้การมองเห็นระยะใกล้ทำได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะมาแทนที่แว่นสายตาได้ในวันหนึ่งภายภาคหน้า  

จิโอวานนา เบนอสซี ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยความก้าวหน้าเกี่ยวกับภาวะสายตายาว ในบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา หัวหน้าทีมวิจัยดังกล่าว ทำการศึกษากลุ่มคนที่มีภาวะสายตายาวจำนวน 766 คน ซึ่งอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 55 ปี โดยทีมวิจัยหวังที่จะพบวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้การมองเห็นของคนสูงอายุดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องสวมแว่นหรือทำการผ่าตัด

จิโอวานนา กล่าวว่า ผู้ที่มีภาวะสายตายาวมีทางเลือกที่จำกัด สำหรับคนที่ผ่าตัดไม่ได้ ก็ต้องสวมแว่นสายตา ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่เธอและทีมวิจัยของเธอให้ความสนใจ

“เราทำวิจัยนี้ในระหว่างที่ยังไม่พบการรักษาทางการแพทย์สำหรับภาวะสายตายาว วิธีแก้ไขในปัจจุบัน เช่น การสวมแว่นสายตา หรือการผ่าตัดนั้นยังมีข้อจำกัด แถมยังไม่สะดวก และเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อน” จิโอวานนา กล่าว

ยาหยอดตาที่ทำขึ้นมานั้น ประกอบด้วยส่วนผสม 2 อย่าง คือ พิโลคาร์พีน ที่ช่วยให้ม่านตาหดแคบลงและทำให้กล้ามเนื้อ Ciliary ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการปรับโฟกัสของเลนส์ตาให้สามารถมองเห็นภาพได้ทั้งระยะใกล้และไกลหดตัวลง กับส่วนผสมอีกอย่าง คือ ไดโคลฟีแนค ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบประเภทที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ สำหรับบรรเทาการอักเสบที่อาจเกิดจากการพิโลคาร์พีน

ในการวิจัย ทีมวิจัยทดลองยาหยอดตากับผู้ร่วมการทดลองที่เป็นผู้ชาย 393 คน และผู้หญิง 373 คน โดยแยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกหยอดยาที่มี พิโลคาร์พีน เข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่สอง หยอดยาที่มี พิโลคาร์พีน เข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มที่ 3 หยอดยาที่มี พิโลคาร์พีน เข้มข้น 3 เปอร์เซ็นต์

หลังผ่านไป 1 ชั่วโมง ทีมวิจัยบันทึกความสามารถในการมองเห็นและการอ่านตัวอักษรหรือตัวเลขจากแผ่นวัดสายตา (Jaeger Chart) ในระยะใกล้ที่สุดที่ผู้ร่วมการทดลองมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องสวมแว่น

จิโอวานนาบอกว่า ผลการทดสอบออกมาน่าประทับใจ โดยผู้เข้าร่วมการทดลองที่ได้รับการหยอดพิโลคาร์พีนเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 148 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99 สามารถมองเห็นระยะใกล้ได้ดีขึ้นและอ่านแผ่นวัดสายตาได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสองบรรทัด และราวร้อยละ 83 ของผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมดมีการมองเห็นระยะใกล้ได้ดีนานถึง 12 เดือน โดยที่นักวิจัยไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง อย่างเช่น ความดันภายในลูกตาที่สูงขึ้น หรือภาวะจอประสาทตาหลุดลอก

“ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุด คือ การแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วของการปรับการมองเห็นและการคงอยู่ของการมองเห็นระยะใกล้ได้ยาวนานที่ใกล้เคียงกันของทั้งสามกลุ่ม และการช่วยให้ตาสามารถโฟกัสได้ขึ้นในทุกระยะการมอง” หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว

ในขณะที่ ผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มที่หยอดพิโลคาร์พีนเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 69 สามารถอ่านหนังสือได้สามบรรทัดและอ่านตัวอักษรหรือตัวเลขจากแผ่นการ์ดวัดสายตาได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มที่หยอดพิโลคาร์พีนเข้มข้น 3  เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 84 สามารถอ่านอ่านตัวอักษรหรือตัวเลขจากแผ่นการ์ดวัดสายตาได้ในจำนวนบรรทัดที่มากขึ้น

ทีมวิจัยระบุว่า มีการพบผลข้างเคียงเล็กน้อย 2 ถึง 3 อย่าง เช่น การมองเห็นที่ชัดน้อยลงในกลุ่มผู้เข้าร่วมทดลองร้อยละ 32 นอกจากนี้ มีอาการตาแฉะ ตาแดง และตาไวต่อแสงสว่าง แต่ไม่มีใครต้องหยุดการทดลอง

จิโอวานนา กล่าวว่า เกือบทุกคนที่เข้าร่วมการทดลองมีการมองเห็นระยะใกล้ที่ดีขึ้น แต่ก็แตกต่างกันไปตามสภาพการมองเห็นก่อนหน้าของแต่ละคน และสามารถปรับความเข้มข้นของพิโลคาร์พีนให้เหมาะกับแต่ละคนได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะสายตายาวที่เกิดขึ้น

นักวิจัยย้ำว่า การทดลองนี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่การผ่าตัด ซึ่งในกรณีที่จำเป็นก็ต้องทำการผ่าตัด ขณะที่ผู้เขียนบทความต้นฉบับนี้ ระบุว่า ไม่ได้มีเจตนาหรือวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้คำแนะนำทางการแพทย์ แต่เขียนขึ้นเพียงเพื่อเป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น


ที่มา
Eye Drops May One Day Replace Reading Glasses, and Could Help Our Vision as we Age