Skip to main content

 

Libertus Machinus
 

 

เวลาเราพูดถึงการประกันรายได้ให้กับ “คนแก่” ของรัฐสวัสดิการตะวันตก สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ ระบบ "บำนาญ" ที่เกิดจาก "ประกันสังคม" นั้น โยงกับแรงงานที่ได้รับการว่าจ้างแบบเป็นเงินเดือนสม่ำเสมอในระบบเป็นหลัก ดังนั้น คนเป็น "ฟรีแลนซ์" รายได้ที่เป็นบำนาญตอนแก่ที่มากับระบบประกันสังคมจะต่ำมากๆ และนี่เป็นเรื่องราวของชายชาวสเปนนามสมมติว่า “ราฟาเอล” ที่สำนักข่าวสเปนอย่าง El Pais เล่าให้ฟัง

ราฟาเอล เป็นนักข่าวฟรีแลนซ์มาตลอดชีวิต และเค้าก็ไม่ได้วางแผนการเงินอะไร สุดท้ายเมื่อเค้าแก่จนไม่มีใครให้งานทำ และในปี 2008 เค้าต้องเกษียณไปในวัย 65 ปี ซึ่งตอนนั้น อายุของราฟาเอลถึงจุดที่รัฐเริ่มจ่ายบำนาญพอดี แต่เนื่องจากเป็นฟรีแลนซ์อย่างที่ว่า เค้าส่งเงินประกันสังคมน้อย และผลคือรัฐให้เงินบำนาญคนแก่เค้าเพียงเดือนละ 18,000 บาทเท่านั้น

สเปน ถือเป็นชาติยุโรปที่ค่าครองชีพถูก เรียกได้ว่าหลังวิกฤติปี 2008 ก็ยิ่งถูก แต่เงินเพียงเดือนละ 18,000 บาท ยังไงก็ไม่พอค่ากินค่าอยู่ บวกกับ "ค่าเช่า" แม้แต่ในสเปน และราฟาเอลก็ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองในตอนเกษียณ สุดท้ายเค้าเลยไปขออยู่ในอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวคนหนึ่งที่หมู่เกาะคานารี ซึ่งสมัยก่อนนั้นยังไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแบบทุกวันนี้

ราฟาเอลอยู่มา 9 ปี หมู่เกาะคานารีค่อยๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต บ้าน ที่ดิน อพาร์ตเมนต์ และค่าเช่าต่างๆ แพงขึ้นหมด และลูกสาวของราฟาเอลก็ต้องการขายอพาร์ตเมนต์เพื่อเอาเงิน ซึ่งนั่นทำให้ราฟาเอลไม่มีที่อยู่ ราฟาเอลในวัยเกือบ 75 ปี เลยดีลกับลูกสาวว่า ถ้าเค้าขายอพาร์ตเมนต์ได้ในราคาที่สูงกว่าที่ลูกสาวตั้งไว้ เค้าจะขอเงินส่วนต่างที่ว่านั้น

ซึ่งเค้าก็ขายได้ราคาสูงจริงๆ และ "ส่วนต่าง" ที่ว่าก็อยู่ที่ประมาณ 730,000 บาท

เงินจำนวน 730,000 บาทไม่ใช่เงินน้อยแน่ๆ สำหรับคนได้บำนาญเดือนละ 18,000 บาท แต่ราฟาเอลก็ต้องคิดดีๆ เพราะถ้าเค้าเอาไปเช่าที่อยู่อาศัยในหมู่เกาะคานารี ไม่นานต้องหมดเกลี้ยงแน่ เพราะทุกๆ พื้นที่ราคาเป็น "ราคานักท่องเที่ยว" ไปหมด และแพงขึ้นทุกปี ซึ่งก็ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่สุดฮ็อตนี้ ขนาดพวกคนทำงานบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเองยังต้องกางเต๊นท์นอนหรือไม่ก็อยู่รถบ้าน เพราะทุกพื้่นที่เป็นเงินเป็นทองไปหมด ค่าเช่าโหดสุดๆ ระดับคนทำงานจ่ายกันไปไหว (ถ้ายังต้องการจะไม่เหลือเงินเก็บจากการทำงาน)

และแล้วราฟาเอลก็เจอทางออกโดยบังเอิญอย่างงงๆ เพราะมีคนรู้จักมาเสนอไอเดียว่า ให้ไปซื้อเรือจากคนฝรั่งเศสที่กำลังจะกลับประเทศ และอาศัยอยู่บนเรือตรงที่จอดเรือนั่นแหละ  ซึ่งราฟาเอลก็รับดีลนี้มาอย่างดีใจ เพราะนั่นจะทำให้ชีวิตบั้นปลายเค้าไม่ต้องกลัวจะกลายเป็นคนไร้บ้าน และเค้าก็อยู่บนเรือนับแต่นั้นมา

ราฟาเอลบอกว่า ชีวิตโอเคมาก เพราะสิ่งที่เค้าต้องจ่ายมันแค่ประมาณ 3,700 บาทต่อเดือน (ไม่เกิน 100 ยูโร) ราคานี้รวมค่าจอดเรือ รวมค่าน้ำค่าไฟฟ้าหมดแล้ว ซึ่งถ้าเค้าจะอาบน้ำร้อน เค้าขึ้นมาอาบบนท่าก็ได้ และใช้เรือหลักๆ เป็นที่นอนเท่านั้นก็พอ ซึ่งสำหรับราฟาเอล นี่คือสิ่งที่ดีเยี่ยมแล้ว

ทั้งหมดจะเรียกว่า เป็นโชคดีของราฟาเอลก็ว่าได้ เพราะท่าจอดเรือนี้ ถือว่าราคาถูกสุดในสเปน และคิวคนจะมาเช่ามีเป็นร้อยคิว เรียกได้ว่าถ้าราฟาเอลไม่ได้ที่จอดเรือมาพร้อมเรือ เค้าคงไม่ได้ "บ้าน" หลังใหม่แห่งนี้แน่ๆ

 

ชุมชนคนที่ใช้เรือเป็นบ้านในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ภาพจาก CanalsOnline Magazine

 

ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงการมีชีวิตอยู่บนเรือเพราะไม่มีที่อื่นอยู่ เอาจริงๆ คนอาจไม่นึกถึงสเปนมากเท่าไร เพราะเมืองที่คนอยู่บนเรือเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบนบกมายาวนานกว่า คือ ลอนดอน และนั่นคือโหดจริง เพราะขนาด The Guardian ลงข่าวเมื่อปี 2014 ตอนนั้นค่าเช่าที่นอนในห้องแคบๆ บนเรือ คือ ประมาณ 10,000 บาทเรียบร้อยแล้ว และนั่นคือเรือที่อยู่กันแบบสลัมแบบ 20 คนอะไรแบบนี้ โดยปัจจุบันจำนวนเรือที่คนอยู่กันเพราะไม่มีปัญญาจ่ายค่าอพาร์ตเมนต์ก็เพิ่มขึ้นไปอีก

บ้านเราอาจเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยาก เพราะถึงคนจะบ่นเรื่องค่าครองชีพแค่ไหน พวก "เค่าเช่าหอ" ในบ้านเราก็ยังมีระดับที่ "สบายกระเป๋า" หรือ "ราคานักศึกษา" อยู่เสมอ และก็คงอีกนานที่คนไทยจะ "จ่ายค่าเช่าไม่ไหว" ในระดับลอนดอน หรือกระทั่งหมู่เกาะคานารี


อ้างอิง
Living on a boat because you can’t pay the rent: ‘I have a decent life here’
My life in London's houseboat slums
‘We couldn’t afford to rent a flat in London so we rent a boat instead’
thoughts on floaters, boaters and the housing crisis

    
อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน