Skip to main content

 

เรื่องราวของ โอคูมะ มิตซูรุ วัยรุ่นหัวร้อนที่มักมีปากเสียงกับครูประจำชั้นบ่อยๆ ก่อนจะตัดสินใจทิ้งการเรียน และเดินทางออกจากฟูกูโอกะมุ่งสู่เมืองใหญ่ที่โอซาก้า ด้วยวัย 16 ปี เพื่อตามหาความฝันการเป็นเจ้าของร้านมอเตอร์ไซค์ ก่อนเกิดจุดเปลี่ยนที่นำเขามาสู่การเป็นนักธุรกิจเพื่อสังคม สร้างธุรกิจที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงสูงวัยในญี่ปุ่นให้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และทำให้สังคมสูงวัยของญี่ปุ่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

โอคูมะ มิตซูรุ เจ้าของ บริษัทยูกิฮาโนทาคาระ ในเมืองฟูกูโอกะ สร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมด้วยการนำภูมิปัญญาและความรู้ของผู้หญิงสูงอายุมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น และพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุมีคุณค่าต่อสังคม โดยตั้งคำขวัญบริษัทว่า “คุณยายจากชนบทผู้พลิกฟื้นญี่ปุ่น”

ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นของบริษัทยูกิฮาโนทาคาระ และเป็นสินค้าขึ้นชื่อ ได้แก่ มันหวานอบแห้ง ที่ผลิตโดยคุณยาย 3 ท่าน คือ นาอิโตะ มิยาโกะ อายุ 89 ปี, ยูชิยามะ เคย์โกะ อายุ 83 ปี และ คูนิทาเกะ โทกิ อายุ 78 ปี คุณยายทั้งสามโตมาในครอบครัวเกษตรกร และมีภูมิปัญญาที่รับตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะการทำขนมหวานแบบดั้งเดิมที่มีสูตรเฉพาะ

มันหวานอบแห้ง ของคุณยายใช้เวลาลองผิดลองถูกนานถึง 3 ปี จึงได้สูตรที่ลงตัว ในตอนแรกที่เริ่มวางขาย พวกเธอไม่มั่นใจว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าหรือไม่ แต่เมื่อเริ่มวางจำหน่ายทางออนไลน์ได้ไม่นาน ก็ขายได้หมดอย่างรวดเร็ว และข้อความที่พิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ว่า “ผลิตโดยคุณยาย” เป็นที่ถูกใจของผู้คน ทำให้มียอดสั่งซื้อหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วประเทศ มันหวานอบแห้งสูตรของคุณยายยังได้รับรางวัลจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองฟูกูโอกะอีกด้วย

คุณยายนาอิโตะเล่าว่า รู้สึกอิสระที่ได้ทำงานที่นี่ และเล่าว่า เช็คจ่ายค่าแรงใบแรกที่ได้รับ เธอนำไปซื้อของขวัญให้กับสามี ซึ่งเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนจนคุณยายได้งาน

“ฉันสนุกที่มีเงินของตัวเองสำหรับใช้จับจ่ายในสิ่งที่พอใจ การทำงานและได้เงินเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่” คุณยายนาอิโตะกล่าว

 

โอคูมะ มิตซูรุ เจ้าของ บริษัทยูกิฮาโนทาคาระ ธุรกิจเพื่อสังคมที่นำศักยภาพของผู้หญิงสูงอายุมาทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีชีวิตชีวา

 

ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ โอคูมะ มิตซูรุ เจ้าของบริษัทยูกิฮาโนทาคาระให้ความสำคัญกับผู้หญิงสูงอายุเป็นอย่างมาก เกิดขึ้นหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำเมื่อตอนอายุ 25 ปี จนบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 4 ปี และที่นั่นเองที่เขาเกิดความคุ้นเคยกับคุณย่าคุณยายที่มาพักรักษาตัว ซึ่งคอยแวะเวียนมาเป็นเพื่อนคุย และช่วยให้เขาหลุดพ้นจากอาการซึมเศร้าที่กัดกินอยู่ลึกๆ ในใจ

โอคูมะเล่าว่า คุณย่าคุณยายที่โรงพยาบาลปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกหลานในครอบครัว การชวนคุยเรื่องส่วนตัว ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจในตอนแรก แต่ต่อมาเขาก็เปิดใจมากขึ้นๆ ต่อมาคุณยายท่านหนึ่งซึ่งเอาใจใส่โอคูมะอย่างมากได้เสียชีวิตลง ทำให้เขาช็อก และเคว้งคว้าง

หลังออกจากโรงพยาบาล โอคุมะทำงานหลายอย่าง ก่อนที่จะทำสตูดิโอออกแบบของตัวเอง เขาศึกษาเกี่ยวการออกแบบเพื่อสังคม ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กลายมาเป็นผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคม และไอเดียในการตั้งบริษัทที่มีเป้าหมายเพื่อผู้หญิงสูงอายุ ก็มาจากช่วงเวลาที่เขารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั่นเอง

“ผมอยากที่จะชดเชยให้กับบุญคุณของคุณย่าคุณยายที่มีให้ผมในตอนที่ชีวิตมืดมนที่สุด ท่านช่วยเปิดตาทำให้ผมมองเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจของผม” โอคูมะกล่าว

บริษัทยูกิฮาโนทาคาระยังพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น กางเกงสำหรับใส่ทำงานที่มีความทนทานสูง ที่ผลิตจากเส้นใยขนสัตว์ในท้องถิ่น และระบุว่า เป็นกรรมวิธีสืบทอดกันมานานกว่า 200 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม

ในเดือนพฤศจิกายน 2023 บริษัทยูกิฮาโนทาคาระเริ่มเปิดตัวนิตยสารรายเดือนที่นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงสูงอายุจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ชื่อ Gekkan bāchan เนื้อหามีทั้งเรื่องแฟชั่น อาหาร และอื่นๆ ที่ดึงดูดความสนใจของผู้หญิงสูงวัย  โดยพิมพ์ 4 สี ขายในราคา 330 เยน หรือตกราว 75 บาท

ในตอนเริ่มต้นนิตยสารทำยอดขายได้ไม่สูงนัก จนกระทั่งถึงฉบับที่ 6 Gekkan bāchan จึงเริ่มได้รับความสนใจจากบริษัทห้างร้านต่างๆ รวมถึงธนาคาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจอื่นๆ มาเป็นสปอนเซอร์ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ฉบับต่อเดือน

ถึงปัจจุบัน บริษัทยูกิฮาโนทาคาระดำเนินการมาได้ 6 ปีแล้ว และปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัทได้จัดอีเวนท์เตรียมเปิดตัวคาเฟ่สำหรับผู้หญิงสูงวัยในย่านอูเมบายาชิของฟูกูโอกะ ซึ่งพนักงานมีทั้งผู้หญิงสูงอายุ ผู้หญิงที่เป็นโรคสมองเสื่อม ที่กำลังฝึกฝนการทำทงคัตสึให้กับคนที่ทำงานร่วมกันในโครงการนี้

มิยากาวะ ชินโกะ หัวหน้าศูนย์พยาบาล ซึ่งร่วมอยู่ในโครงการคาเฟ่เพื่อผู้หญิงสูงอายุ บอกว่า ผู้คนอาจรู้สึกว่าการให้ผู้ที่มีอาการสมองเสื่อมจับของมีคม อย่างเช่น มีด นั้นอันตราย แต่เขาอธิบายว่า แม้ความสามารถใจการจดจำเรื่องราวจะย่ำแย่ แต่ทักษะต่างๆ ที่สะสมมานานปี อย่างเช่น การทำครัวนั้นจะยังคงอยู่ ซึ่งคาเฟ่นี้ได้สร้างโอกาสให้กับทั้งผู้หญิงสูงอายุ และผู้ที่มีอาการสมองเสื่อม ให้ได้ใช้ความสามารถของตัวเองที่มีอยู่

สุมิดะ อัตซูชิ เจ้าหน้าที่เทศบาลซึ่งทำงานช่วยเหลือผู้มีอาการสมองเสื่อมบอกว่า ภายในปี 2050 ประชากรร้อยละ 10 ของญี่ปุ่นจะต้องทนทุกข์กับอาการสมองเสื่อม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างสังคมไว้พร้อมรองรับคนกลุ่มนี้ และเขาหวังว่าธุรกิจเพื่อสังคมของโอคูมะจะสร้างแนวทางและทำในสิ่งที่เป็นข้อจำกัดของรัฐบาลในการสำรวจวิธีใหม่ๆ และสร้างมันขึ้นมา

การทำให้ผู้สูงอายุยังคงความกระตือรือล้น และเป็นสมาชิกชุมชนที่ยังคงมีผลิตภาพ จะช่วยเปลี่ยนภาพลบของการเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุดให้กับประเทศญี่ปุ่น และการทำให้ผู้สูงอายุยังคงสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุให้กับรัฐด้วย

เดือนเมษายน 2025 โอคูมะพิมพ์หนังสือชื่อ “เป้าหมายการสร้างธุรกิจร้อยล้านเยนเพื่อผู้หญิงสูงอายุ” และมีแผนที่จะจัดเทศกาลใหญ่ “บาชานเฟสติวัล” หรือเทศกาลของคุณยาย ซึ่งจะมีการรวบรวมผู้หญิงสูงอายุจากทั่วญี่ปุ่นมาร่วมงาน และในมุมมองของโอคูมะ เขาเห็นว่า ศักยภาพของคนรุ่นคุณย่าคุณยายนั้นมีอยู่มากมายไม่มีขีดจำกัด


ที่มา
Bāchan Business: Fukuoka Initiative Provides Income and Purpose for Women in Their Golden Years