Skip to main content

 

ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการเงินในรัฐโอคลาโฮมาของสหรัฐ เปิดให้คำปรึกษาด้านการเงินแบบไม่คิดเงินแก่ประชาชนที่กำลังเผชิญกับภาระหนี้สิน ในการจัดการหนี้ก้อนโตไปจนถึงการออมเงิน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

ลาโตยา ทาร์ต พบว่าตัวเองมีหนี้สินท่วมตัว แม้จะพยายามหาเงินเพื่อเอามาจ่ายหนี้มากแค่ไหน แต่กลับรู้สึกว่าหนี้สินเหล่านี้ไม่ได้ลดน้อยลงเลย และเธอก็ไม่มีเงินเหลือพอสำหรับจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ

ในช่วงเวลายากลำบาก ทาร์ตจึงได้เรียนรู้ว่า มี โครงการให้คำปรึกษาทางการเงินแก่ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เธอจึงตัดสินใจเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่ ศูนย์ส่งเสริมศักยภาพทางการเงิน (The Financial Empowerment Center) ที่นั่น

ศูนย์ส่งเสริมศักยภาพทางการเงิน เป็นความร่วมมือระหว่าง เมืองทัลซา และ Goodwill องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ช่วยประชาชนหางาน ฝึกอบรม เปิดระดมเงินบริจาค และจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเพื่อลดขยะจากหลุมฝังกลบ ศูนย์ที่ตั้งขึ้นนี้มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนและสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการทางการเงินในเมืองกับชาวเมืองทัลซา โดยมีบริการให้คำปรึกษาและมอบทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการจัดการทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคาร การจัดการหนี้สิน การสร้างเครดิต รวมไปถึงการออมเงิน

 

 

 สิ่งแรกที่ผู้เข้ารับการปรึกษาต้องทำคือ การประเมินสุขภาพทางการเงินร่วมกับผู้ให้คำปรึกษา โดย จาเน แบรดฟอร์ด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมศักยภาพทางการเงินแห่งเมืองทัลซา กล่าวว่า

“ผู้เข้ารับบริการและผู้ให้คำปรึกษาจะพูดคุยกันเรื่องสถานการณ์ทางการเงิน คุณมีรายได้เท่าไร มีรายรับเท่าไร มีรายจ่ายเท่าไร การพูดคุยเหล่านี้จะไม่มีการตัดสินใดๆ และเป็นการพูดคุยที่ต้องการให้รู้สึกสบายใจมากที่สุด”

หลังจากรู้สถานการณ์ทางการเงินแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่การตั้งเป้าหมายทางการเงิน ซึ่งแต่ละคนล้วนมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป และผู้ให้คำปรึกษาก็จะแนะนำวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีนั้นๆ เพื่อนำไปปรับใช้และสร้างระบบทางการเงินส่วนบุคคลที่มั่นคงของตัวเอง

นับตั้งแต่เปิดศูนย์เมื่อธันวาคม 2020 ศูนย์แห่งนี้ได้ทำงานกับชาวเมืองทัลซาแล้วมากกว่า 1,300 ราย และมากกว่า ร้อยละ 21 ของคนที่เคยเข้ารับการปรึกษา สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่พวกเขาต้องการได้แล้วอย่างน้อยหนึ่งข้อ

“ฉันคิดว่า การที่ประชาชนในเมืองมีความมั่นคงทางการเงินและสามารถฟื้นตัวได้ มีความสำคัญมาก หากเพื่อนบ้านของเรามีความมั่นคงทางการเงิน ก็เป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน เพราะเมื่อประชาชนมีความมั่นคงทางการเงิน พวกเขาก็จะนำเงินเหล่านั้นกลับไปลงทุนในชุมชนของพวกเขา” แบรดฟอร์ดกล่าว

แบรดฟอร์ดบอกว่า เมื่อชุมชนเติบโต คนในชุมชนก็สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ย่านที่อยู่ใกล้เคียงกันเจริญรุ่งเรืองไปด้วยนั่นเอง

สำหรับทาร์ตแล้ว นับตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้าไปรับคำปรึกษาทางการเงิน เธอสามารถจัดการหนี้สินของเธอได้แล้วมากกว่า 3,400 ดอลลาร์ แม้ยังเหลือหนี้สินที่ยังต้องจัดการและสร้างความกดดันให้กับเธออย่างมาก แต่การมีที่ปรึกษาทางการเงินก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ

“พวกเขาช่วยให้ฉันรู้ว่าฉันควรเดินไปทางไหน” ทาร์ตกล่าว


อ้างอิง
The Tulsa Financial Empowerment Center (FEC)
‘It Affects All of Us’: Free Financial Counseling Helps Tulsans Thrive