Skip to main content

 

พันธุ์อาจ ชัยรัตน์

 

ความทะเยอทะยานของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลก ที่เริ่มขยับขยายอาณาจักรธุรกิจสู่การสร้าง "เมือง" ในอุดมคติ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวนี้จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ความฝันเฟื่องหรือโปรเจกต์งานอดิเรก เมื่อรายงานล่าสุดจาก Financial Times ได้เผยให้เห็นพิมพ์เขียวฉบับใหม่ของชนชั้นนำซิลิคอนวัลเลย์ ที่กำลังเปลี่ยนจากการสร้างที่อยู่อาศัย มาเป็นการสถาปนา "เมืองทำกำไร" (For-profit cities) - รัฐอิสระรูปแบบใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายขนบเดิมของรัฐชาติ (Nation-state)


จากบริษัท สู่การสร้าง "รัฐจากเครือข่าย" (The Network State)

 

แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นแค่ความฝันของมหาเศรษฐี แต่กำลังถูกขับเคลื่อนอย่างจริงจังโดยได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด "The Network State" ของ Balaji Srinivasan อดีตผู้บริหาร Coinbase และนักลงทุนชื่อดัง เขาเสนอให้คนที่มีแนวคิดเหมือนกันมารวมตัวกันทางออนไลน์ก่อน แล้วค่อยระดมทุนเพื่อซื้อที่ดินสร้างเมืองหรือรัฐจริงๆ ขึ้นมาในภายหลัง

เป้าหมายคือการสร้างเขตปกครองพิเศษที่ดำเนินการเหมือน "บริษัทสตาร์ทอัพ" (Start-up Cities) ที่เน้นความคล่องตัว กฎระเบียบน้อย และเป็นมิตรกับนวัตกรรม โดยมองว่าระบอบประชาธิปไตยแบบดั้งเดิมนั้น "ล้มเหลว" และเชื่องช้าเกินไปสำหรับโลกอนาคต


The Reality: เมื่อขนาดเศรษฐกิจ Big Tech "ใหญ่" กว่ารัฐชาติ

 

ก่อนที่เราจะมองว่า นี่เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน เราต้องยอมรับความจริงทางเศรษฐศาสตร์ข้อหนึ่งที่น่าตกใจ ปัจจุบัน Big Tech หลายแห่งมีสถานะทางเศรษฐกิจที่ทรงพลังกว่าประเทศส่วนใหญ่บนโลกไปแล้ว

หากนำมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ของบริษัทอย่าง Apple, Microsoft หรือ NVIDIA มาเทียบกับ GDP ของนานาประเทศ เราจะพบว่าอาณาจักรเทคโนโลยีเหล่านี้มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าหลายประเทศในกลุ่ม G7 เสียอีก เมื่อ "อำนาจเงิน" (Financial Power) มีมากพอจนล้นพ้นขอบเขตของธุรกิจ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะเริ่มแสวงหา "อำนาจทางอธิปไตย" (Sovereign Power) เพื่อสร้างกติกาที่เอื้อต่อการเติบโตของตนเองโดยไม่ต้องรอไฟเขียวจากรัฐบาลใดๆ

ใครคือผู้เล่นสำคัญในสนามนี้?

ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการสนับสนุนจากระดับ "บิ๊กเนม" ในวงการเทคโนโลยีและนักลงทุนระดับโลกหลายราย อาทิ:
- Peter Thiel (ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal): ผู้สนับสนุนแนวคิดเมืองอิสระและรัฐลอยน้ำ (Seasteading) มาอย่างยาวนาน
- Marc Andreessen (ผู้ก่อตั้ง a16z): นักลงทุนผู้ทรงอิทธิพลในซิลิคอนวัลเลย์
- Sam Altman (ผู้ก่อตั้ง OpenAI): มีรายงานว่ากองทุนที่เกี่ยวข้องกับเขาก็ให้ความสนใจในโปรเจกต์ลักษณะนี้
- Próspera: เมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศฮอนดูรัส ที่บริหารงานโดยบริษัทเอกชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนที่สุดในปัจจุบัน
- Praxis: สตาร์ทอัพที่กำลังระดมทุนเพื่อสร้างเมืองใหม่ (อาจตั้งอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน) โดยเน้นดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ


ทำไมต้องสร้างเมืองเอง?

 

แรงจูงใจหลักของกลุ่ม Tech Elites เหล่านี้คือ
1. แหกกฎระเบียบ (Deregulation): พวกเขาต้องการพื้นที่ที่ปลอดจากกฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษี หรือข้อจำกัดทางนวัตกรรมแบบเดิมๆ เพื่อให้สามารถทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ (เช่น คริปโต, การแพทย์ทางเลือก, โดรน) ได้อย่างเสรี
2. ประสิทธิภาพ (Efficiency): มองว่าการบริหารเมืองควรใช้โมเดลธุรกิจที่เน้นกำไรและการเติบโต มากกว่าระบบราชการที่อุ้ยอ้าย
3. สังคมคัดสรร (Curated Community): ต้องการสร้างชุมชนที่ประกอบด้วย "หัวกะทิ" หรือคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน โดย Balaji ถึงขั้นเปรียบเทียบว่าเป็นบริการแบบ "Society-as-a-Service" (สังคมในรูปแบบบริการสมาชิก)


เหรียญอีกด้าน: ความหวังใหม่ หรือ ภัยคุกคาม?

 

แม้แนวคิดนี้จะฟังดูเหมือนโลกอนาคตที่ล้ำสมัย แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหลายประเด็น


- ประชาธิปไตยที่หายไป: เมืองเหล่านี้มักไม่มีการเลือกตั้ง ผู้บริหารเมืองมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือน CEO สั่งงานลูกน้อง ผู้อยู่อาศัยเป็นเพียง "ลูกค้า" หากไม่พอใจก็แค่ย้ายออกไป (Exit) แทนที่จะมีสิทธิ์มีเสียง (Voice)
- ลัทธิล่าอาณานิคมยุคใหม่ (Neocolonialism): การที่มหาเศรษฐีต่างชาติเข้าไปกว้านซื้อที่ดินในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อตั้งกฎหมายของตัวเอง สร้างความกังวลเรื่องการละเมิดอธิปไตยและความเหลื่อมล้ำกับคนท้องถิ่น
- Techno-Fascism: นักวิจารณ์บางคนมองว่านี่คือรูปแบบหนึ่งของเผด็จการทางเทคโนโลยี ที่ให้อำนาจเงินและเทคโนโลยีอยู่เหนือสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน


Weak Signal: ภาพสะท้อนจาก Alien: Earth และ Weyland-Yutani

 

ปรากฏการณ์ For-profit cities นี้ เปรียบเสมือน "Weak Signal" (สัญญาณอ่อน) ที่กำลังส่งเสียงเตือนถึงฉากทัศน์อนาคตที่เราเคยเห็นในนิยายไซไฟอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในซีรีส์ Alien: Earth

เรากำลังเห็นจุดเริ่มต้นของโมเดล "Corporate Sovereignty" ที่บริษัทเอกชนเริ่มมีอำนาจเหนือรัฐบาล ซึ่งชวนให้นึกถึง Weyland-Yutani บรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ในจักรวาล Alien ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ มีกองกำลังทหาร มีอาณานิคม และมีกฎหมายเป็นของตัวเองภายใต้สโลแกน "Building Better Worlds"

การที่ Tech Elites ในวันนี้เริ่มสร้างเมืองปิดเพื่อทดลองเทคโนโลยีชีวภาพหรือ AI โดยพยายามหลีกหนีการตรวจสอบจากภายนอก คือก้าวแรกของการขยับเส้นแบ่งระหว่าง "บริษัทเอกชน" และ "ผู้ปกครองรัฐ" ให้จางลง สถานการณ์ใน Alien: Earth ที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ของบรรษัทเหนือมนุษยธรรม อาจไม่ใช่แค่เรื่องแต่งอีกต่อไป แต่เป็นปลายทางที่โมเดลเมืองแสวงหากำไรเหล่านี้กำลังมุ่งหน้าไป


Mega Sandbox, สึนามิระบบราชการ และพลเมือง Sci-Fi

 

ปรากฏการณ์นี้กำลังสร้างแรงกระเพื่อมที่ตีความได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแต่ละมุมมอง:


- ในมุมของสายเทคและชาวสตาร์ทอัพ: นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะเมืองเหล่านี้เปรียบเสมือน "Mega Sandbox" แบบถาวรที่พวกเขารอคอยมานาน พื้นที่ที่ไร้เพดานกฎหมายเดิมๆ เอื้อให้ทดลองนวัตกรรมสุดขั้วได้อย่างอิสระเสรี
- ในมุมของนักผังเมือง: นี่คือความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์ ทฤษฎีการพัฒนาเมืองที่เคยร่ำเรียนมาอาจต้องถูกรื้อใหม่ เมื่อ "กำไร" กลายเป็นแกนกลางของการออกแบบผังเมืองแทนที่ "คุณภาพชีวิตสาธารณะ"
- ในมุมของภาครัฐ: คงไม่แปลกหากข้าราชการจะรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนรอยเลื่อนที่กำลังสั่นไหว เพราะโมเดลนี้คือ "สึนามิ" ลูกใหญ่ที่จะซัดถล่มระบบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นแบบเดิมให้พังทลาย หรือถูกบีบให้ต้องปรับตัวอย่างรุนแรงเพื่อแข่งขันแย่งชิงประชากร
- และสุดท้าย ในมุมของพลเมือง: สำหรับใครที่คิดจะย้ายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเหล่านี้ การเตรียมตัวที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่การอ่านกฎหมายเมือง แต่เป็นการกลับไปดูหนัง Sci-Fi ให้มากๆ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดอย่าง Alien: Earth เพื่อให้เข้าใจว่าชีวิตภายใต้อาณานิคมของบรรษัทยักษ์ใหญ่... หน้าตาเป็นอย่างไร


ยูโทเปีย หรือ กับดักของความเจริญ?

 

ภายใต้ภาพลักษณ์อันทันสมัยและดีไซน์ที่ล้ำยุค โมเดลนี้นำมาซึ่งคำถามที่ชวนขบคิดถึงแก่นแท้ของความเป็นประชาธิปไตย:

- The Loss of Voice: ในเมืองที่เป็นบริษัท พลเมืองลดสถานะเหลือเพียง "ลูกค้า" อำนาจบริหารเบ็ดเสร็จอยู่ที่ CEO หากไม่พอใจ ทางออกเดียวคือการ "Exit" (ย้ายออก) แทนที่จะมีสิทธิ์ "Voice" (โหวตหรือเรียกร้อง)
- Techno-Colonialism: การที่ทุนข้ามชาติเข้าไปกำหนดกติกาบนแผ่นดินของประเทศกำลังพัฒนา อาจถูกมองว่าเป็นลัทธิล่าอาณานิคมรูปแบบใหม่ที่มาในคราบของความเจริญทางเทคโนโลยี
- The Enclave Problem: ท้ายที่สุด เมืองเหล่านี้อาจเป็นเพียง "Gated Community" ระดับชาติสำหรับผู้มีอันจะกิน ที่ทิ้งปัญหาความเหลื่อมล้ำของโลกภายนอกไว้เบื้องหลัง

 

ปรากฏการณ์ของ Tech Elites ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความพยายามที่จะ "Debug" สังคมมนุษย์เหมือนการแก้โค้ดโปรแกรม ทว่าคำถามสำคัญที่ยังรอคำตอบคือ เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยผลกำไร จะเหลือพื้นที่ว่างให้จิตวิญญาณ ความหลากหลาย และความเท่าเทียม หรือจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคสมัยที่กำเนิด 5 บรรษัทยักษ์ที่มีอำนาจเหนือมนุษยชาติอย่างสมบูรณ์แบบใน Alien: Earth?


อ้างอิง
Tech elites are starting their own for-profit cities