วานนี้ (12 พ.ค. 2565) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างพบปะตัวแทนชุมชนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลมาเปิด พร้อมชี้แจงสิ่งที่ทำไว้ให้คนไทยในแดนไกลได้รับรู้ เปรียบเทียบก่อนและหลังรับตำแหน่งละเอียด ก่อนมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาจากเสียงสะท้อนของคนไทยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขาดแคลนแรงงานไทย พร้อมแจ้งความคืบหน้าการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ให้การเดินทางเข้าไทยสะดวกขึ้น นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และรายได้เข้าประเทศจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หลังสามารถแก้ปัญหาโควิด-19 จนทั่วโลกยอมรับ แต่ในประเทศกลับตำหนินายกรัฐมนตรี เพราะข้อจำกัดที่เข้มงวด ถึงขั้นต่อว่าเป็นเผด็จการ

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ความคิดของคนในขณะนี้มีความแตกต่างกันมาก แต่ต้องมีหลักการและมีภูมิต้านทาน ต้องมีภูมิคุ้มกันในการเสพ ฟัง เชื่อ ทุกวันนี้ตื่นเช้ามา ข่าวสารต่างๆ มีด่าตนเองเกือบครึ่ง ซึ่งตนก็สบายใจ อยากด่าก็ด่า เพราะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด และสิ่งที่ตนทำไม่เห็นมาชมกันเลย นายกฯ ทำงานไม่ได้ต้องการคำชมเชย แต่ต้องการทำให้เห็นว่า ประเทศเจริญขึ้นมาอย่างไรแล้วบ้างในวันนี้

นายกรัฐมนตรี ยังได้พูดถึงเรื่องความรัก ความสามัคคี ประชาชนที่สหรัฐฯ รักใคร่ ยิ้มแย้ม แต่ประเทศไทยพร้อมจะตีกันทั้งวัน ไม่ว่าจะฟังวิทยุ ดูสื่อโซเชียลก็โมโหง่าย แต่ก็เป็นปัญหาที่ทุกประเทศเจอกันทั้งหมด ตนมีโอกาสได้ถามผู้นำประเทศอื่นว่า เจอเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ทุกคนต่างตอบว่าเจอเช่นกัน ผลของโซเชียลกระทบไปทั้งหมด เพราะถือเป็นช่องทางใหม่ที่ใครก็สามารถสื่อสารได้ ดังนั้น ยังยืนยันว่าต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนไม่ดีก็มีอยู่ ซึ่งได้ปลดทิ้งไล่ออกไปเยอะ จะมีปะปนกันไปทั้งคนดีคนชั่ว แต่คนไม่ดีตนไม่เอาไว้ ตราบใดที่ผู้นำไม่ทุจริต สามารถทำได้หมด ดังนั้น ตนไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ใครจะมาไล่อะไรก็ช่าง ไล่ได้ก็ไล่ไป แต่ที่อยู่วันนี้ก็ต้องการทำให้ดีที่สุด