ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย  กล่าวถึงการประชุมพรรคเศรษฐกิจไทยวันนี้ (29 เม.ย.) ว่า เป็นการประชุมสามัญประจำปี 2565 เพื่อปิดงบดุล ไม่ได้มีวาระพิเศษ ไม่มีไฮไลท์อะไร ส่วนการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ จะดำเนินการเมื่อพร้อมทั้งหมด รวมไปถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต โดยยืนยันว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคเป็นมืออาชีพ พร้อมยอมรับว่าทาบทาม ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง และมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ มาร่วมทีมเศรษฐกิจของพรรค แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา และอาจจะมีคนอื่นด้วย ตอนนี้ต้องรอก่อน พร้อมปฏิเสธว่า ไม่เคยทาบทาม ทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง มาร่วมทีมเศรษฐกิจของพรรค ส่วนเรื่องนายกฯ สำรอง มีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้มองไปถึงจุดนั้น มองไปแค่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ต้องเตรียมพรรคให้พร้อม ดังนั้นนายกฯ สำรองตามที่เป็นข่าวนั้น ตนไม่ทราบ

ส่วนที่มีกระแสข่าวเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี สามารถเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร แต่ถามว่าเป็นได้หรือไม่ จริงๆ ท่านก็เป็นได้ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติทางการเมืองในสภาฯ มองเรื่องบัญชีนายกฯอย่างไร เพราะตอนนี้มีไม่กี่คน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่า น่าจะต้องใช้ มาตรา 272 วรรค 2 ว่าด้วยนายกฯ คนนอก สำหรับบุคคลที่จะมาแก้ปัญหาของบ้านเมืองในสถานการณ์แบบนี้ แต่ตนไม่ทราบว่า ใครจะเป็นนายกฯคนนอก ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่

ส่วนที่อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 หารือกับพรรคเศรษฐกิจไทย และเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ นั้น เห็นว่า อดุลย์ คงอยากให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์ แก้ปัญหาในทุกเรื่องมากกว่า ซึ่งก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี

เมื่อถามอีกว่า การเตรียมมาตรา 272 วรรค 2 เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโอกาสจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในเรื่องใด เร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ และยังไม่รู้ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้มือที่มองไม่เห็นมีเยอะ สภาฯ ยังไม่เปิดก็ยังไม่รู้ สภาฯ เปิดก็จะรู้ ตอนนี้ทุกคนต่างซ่อนมีดไว้ข้างหลังตัวเองหมด ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ต้องรอสภาฯ เปิดก่อน

เมื่อถามย้ำว่า มือที่มองไม่เห็นคืออะไร หมายถึงคนในพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในแต่ละพรรคก็มีของดีๆ ในตัวเอง มีมือดีๆ เป็นของตัวเอง เรามองไม่เห็นตอนนี้ เพราะสภาฯ ปิด ทุกคนแอบไปคุยกันเองในแต่ละพรรค ถึงเวลาสภาฯเปิดก็เจอกัน ส.ส.เป็นพี่น้องกัน ไม่มีความลับ

ส่วนที่พรรคเล็กไปคุยกันหลายฝ่ายนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนตัวขอไม่วิจารณ์ แต่ตนมีประสบการณ์เรื่องนี้เยอะ ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ประสบการณ์เยอะคือด้านไหน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าลืมว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา ตนเป็นคนไปดีลเรื่องพวกนี้ เพราะฉะนั้น ตนรู้ดีกว่าใครๆ ที่พยายามเสนอตัวเป็นตัวกลางในการเคลียร์เรื่องนี้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยดูเหมือนมั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะล้มรัฐบาลได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่บอก ช่วงปิดสมัยประชุม ไม่รู้ว่าแต่ละพรรคไปหารืออะไรกันบ้าง แต่ถ้าเปิดประชุม 22 พฤษภาคมแล้ว ก็จะรู้ ไม่มีความลับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ เพราะแต่ละพรรคซ่อนของดีๆ เอาไว้ ไม่พูดกัน

ทั้งนี้ ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล้วยจะกระหึ่มอีกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าประเด็นที่จะยื่นคืออะไร ใครโดนบ้าง แต่ยืนยันว่า พรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ข้างประชาชน

ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเศรษฐกิจไทย จะเสนอ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเป็นเบอร์หนึ่งใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า ต้องเอาคนที่มีเคมีตรงกับพรรคเศรษฐกิจไทย และต้องแก้ปัญหาปากท้องความเดือดร้อนของประชาชนได้

เมื่อถามย้ำอีกว่า แล้วใช่ พล.อ.วิชญ์ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ต้องแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่มีวิกฤต ทุกวันนี้ จากที่ติดตามวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ราคาน้ำมันก็ขึ้น ทุกอย่างแพงหมด โควิดก็ระบาดเต็มบ้านเมือง ประชาชนเดือดร้อน ฐานรากตายทั้งหมด คนที่จะเป็นนายกฯต้องแก้เรื่องนี้ให้ได้

เมื่อถามอีกว่า ใครที่มีคุณสมบัติ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถึงเวลาก็มาเอง ส่วนจะเป็นคนในหรือคนนอกพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธให้ความเห็นถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้ โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่ทราบ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ จะพาลงเหวอยู่เรื่อยเลย”

เมื่อถามว่า หลังเปิดสภาฯการเมืองจะเปลี่ยนขั้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ไปรับประทานอาหารกับพรรคเล็ก ดูเหมือนจะเหน็บ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องกล้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมว่ารัฐมนตรีเฮ้ง ต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ไม่ง่ายอย่างที่คิด”