ที่ชุมชนบริเวณโดมแฟลต 16 การเคหะท่าเรือคลองเตย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ได้ทำกิจกรรมลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยือนประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาปากท้อง พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด โดยมี ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยร่วมด้วยหลายคน อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในกิจกรรมดังกล่าว อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ ดิว อริสรา ได้ร่วมกิจกรรมด้วยพร้อมเปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีกิจกรรมอะไรที่ตนสามารถทำได้ในช่วงสถานการณ์โควิด ก็ทำมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อนาคตจะก้าวเข้ามาสู่งานการเมืองหรือมาเป็นโฆษกพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ อริสรา กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งไม่อยากให้คนมองว่าการเข้ามาทำกิจกรรมตรงนี้เพื่อเป้าหมายอะไร แต่อยากให้มองว่า เป็นการเห็นใจกันและกันมากกว่า
อริสรา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองทุกวันนี้น่าเป็นห่วงแต่คงไม่กล้าออกความคิดเห็นเยอะ เพราะมีความคิดเห็นจากหลายฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว แต่ด้วยความที่เป็นคนไทยด้วยกัน ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนต้องออกมาช่วยกัน พร้อมให้กำลังใจทุกคนที่เจอสถานการณ์โควิด ขอให้สู้กันต่อไป โดยเฉพาะเมื่อมีคนที่มองเห็นค่าและช่วยให้กำลังใจกันขนาดนี้ และยังไม่รู้ว่า หากถูกทาบทามให้เป็นโฆษกพรรคเศรษฐกิจไทยจะตัดสินใจอย่างไร เพราะมีความตั้งใจว่า อะไรที่สามารถทำได้ ที่ตรงจริตและเป็นการช่วยเหลือคนก็ทำ ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้เป็นสมาชิก และขออย่ามองว่าตนอิงการเมืองตลอด ขอให้เห็นหัวใจของคนที่อยากช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ส่วนอนาคตหากมีเวลาก็จะไปร่วมกิจกรรมช่วยเหลือคนอีกเรื่อยๆ
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการขับเคลื่อนพรรคเศรษฐกิจไทย ว่า จะจัดประชุมใหญ่ช่วงสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค โดยตอนนี้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค อีกทั้งจะส่งครบทั้ง 400 เขต และจะเน้นคัดเลือกผู้สมัครที่สังคมแต่ละจังหวัดให้การยอมรับ และต้องเป็นคนที่อยากเป็นผู้แทนของราษฎร ส่วนคาดหวังว่าจะได้กี่เก้าอี้นั้น ตนเองมั่นใจว่า ส.ส. ทั้ง 18 คนเป็น ส.ส.น้ำดีและจะได้กลับมาเป็นผู้แทนราษฎรครบทุกคน ส่วนพื้นที่อื่นเราก็คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งได้มากพอสมควร
ขณะที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีความพร้อมจะเปิดตัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสนอใคร ซึ่งเคยบอกสเปกไปแล้วว่าจะต้องมีเคมีที่เข้ากันกับตนเองได้ และจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อปากท้องของประชาชนได้
เมื่อถามถึงจุดยืนการทำงานของพรรคเศรษฐกิจไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นพรรคอิสระที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ลงมติต่างๆเราจะยึดผลประโยชน์ ของประชาชนเป็นหลัก สิ่งไหนที่รัฐบาลเสนอและเป็นประโยชน์ เราก็พร้อมสนับสนุน แต่เรื่องไหนที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนเราไม่เห็นด้วย
เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัยประชุมหน้า ยังยืนอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราประกาศชัดเจนว่าเราจะยืนอยู่ฝ่ายประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปรายและมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราโหวตสวนแน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำหน้าที่ต่อ ดังนั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป
เมื่อถามว่า ตัวเลข 260 เสียง ที่จะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รวมพรรคเศรษฐกิจไทยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้อนว่า "260 เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใครนะ แต่ไปเอาตัวเลขมาจากไหน ใครๆก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน "
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงไม่ค่อยได้คุยกับใครด้วย เพราะเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด
เมื่อถามว่าการที่ย้ายออกมา มาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ตกที่นั่งลำบาก ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้ใส่ใจ มองเพียงว่ารัฐบาลทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า และไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวถึงปีหน้าหรือไม่ เพราะในทางการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน