30 ปี เส้นทางการเมือง 'คุณหญิงสุดารัตน์' ประกาศทำพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นสถาบันการเมืองที่ให้ประชาชนเป็นเจ้าของ เป็นพรรคทางเลือกมุ่งนโยบายแก้ปัญหาปากท้องดูแลประชาชน ตั้งแต่แรกเกิดจนแก่
ที่สำนักงานพรรคไทยสร้างไทย ลาดปลาเค้า 60 จัดงาน "30 ปี สุดารัตน์ 30 ปี แห่งความภาคภูมิใจได้รับใช้ประชาชน" ในโอกาสครบรอบการทำงานการเมืองของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย มาเป็นเวลา 30 ปี ภายในงานมีบุคคลต่างๆ ในแวดวงการเมืองและผู้สนับสนุนเข้าร่วม อาทิ พงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี โภคิน พลกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี พงศกร อรรณนพพร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุธา ชันแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต่อพงษ์ ไชยสาส์นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตประธานคณะกรรมการบริษัท ทอท. ประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึง อดีต ส.ส.อดีตนักการเมือง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า 30 ปีที่ผ่านมาเป็น 30 ปีแห่งความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เป็น ส.ส.เมื่อ 22 มีนาคม 2535 ยืนยันการต่อสู้กับเผด็จการ ตลอดเส้นทางการเมือง สำนึกเสมอว่าทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของตนเอง ซึ่งระยะเวลาที่ทำงานรับใช้ประชาชน ไม่เคยเห็นยุคใด สมัยใดที่ประเทศชาติจะตกต่ำมากเท่านี้ ประชาชนต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส จึงทำให้ตนเอง มีความมุ่งมั่นและมีพลัง มากกว่าช่วงที่เริ่มต้นทำงานการเมืองเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา เพราะรู้ว่าประชาชนกำลังรอคอยความหวัง ดังนั้นพวกเราไทยสร้างไทยทุกคน จะขอเดินหน้าทำภารกิจสำคัญ นำพาพี่น้องออกจากความทุกข์ยากต้องหายจน หมดหนี้มีรายได้อย่างยั่งยืน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะร่วมกับประชาชนแก้ไข 2 ปัญหาสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดจากอำนาจนิยมและเผด็จการ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ การทำมาหากิน ซึ่งประเทศไทย ตกอยู่ภายใต้แนวคิดแบบอำนาจนิยมและมักสร้างวาทกรรมว่าเป็นคนดี ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะฮีโร่ตัวจริงคือพี่น้องประชาชนทุกคน รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการทำมาหากินของประชาชน เพราะยิ่งนับวันคนตัวเล็กยิ่งไม่สามารถทำมาหากินได้ นั่นเพราะรัฐราชการรวมศูนย์ ที่มุ่งตอบโจทย์คนส่วนน้อยของประเทศ ที่กอบโกยผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้องและครอบครัวของตนเอง มองไม่เห็นความทุกข์ยากของคนส่วนใหญ่ จึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งทุน ของพี่น้องประชาชนคนตัวเล็ก ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงมีหลักคิด ในการสร้างพลัง Empower ให้ประชาชน สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเข้าถึงตลาด โดยเฉพาะประชาชนคนตัวเล็ก ที่ถูกรัฐราชการกดทับ มองคนทำมาหากินเป็นผู้ร้าย จึงต้องออกกฎหมายข้อบังคับมาควบคุม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน ดังนั้นเราจึงต้องปลดปล่อย Liberate ประชาชนให้ลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด
"ภารกิจสำคัญสุดท้าย ที่ตั้งใจคือการนำพาพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นสถาบันการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของ เป็นสถาบันการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน โดยพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นทางเลือกใหม่ เป็นทางรอดของประเทศ ร่วมกันกับพี่น้องประชาชน ออกจากความทุกข์ให้ได้เร็วที่สุด มุ่งสร้างความหวังสร้างโอกาสในการทำมาหากินให้ประชาชนทุกคนอย่างทัดเทียม โดยมีเป้าหมายคือการให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ดังนั้นจะขออาสานำทัพไทยสร้างไทย ทวงคืนเงินในกระเป๋า ทวงคืนประชาธิปไตย และความสุขของทุกคนที่ถูกปล้นไปกลับคืนมาให้สำเร็จ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะขอดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ด้วยการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 10 ขวบ ให้ได้รับสารอาหารและมีพัฒนาการที่ดี เสริมด้วยนโยบายเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี และยกหนี้ กยศ. ให้ทุกคน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ปลดปล่อยออกจากพันธนาการ และสร้างโอกาสในการสร้างเนื้อสร้างตัวได้เร็วที่สุดและแข็งแรง ขณะที่ในช่วงวัยสร้างตัว นโยบายกองทุนตัวเล็ก จะให้โอกาสประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ สามารถตั้งตัวได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่ได้โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ มีแต่เพียงนายทุนเจ้าสัวขนาดใหญ่ ในบั้นปลายชีวิต พรรคไทยสร้างไทยจะผลักดันบำนาญประชาชน 3,000 บาท เพื่อให้ผู้สูงวัยมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีแรงมีกำลังอีกครั้ง โดยลูกหลานไม่ต้องกังวล ซึ่งบำนาญประชาชน 3,000 บาทนี้ จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับชุมชนในอีกทางหนึ่งด้วย