พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวพรรคพลังประชารัฐ ระบุกับพรรคเล็กจะยุบสภาหลังการประชุมเอเปคปลายปีนี้ว่า เป็นเรื่องของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นคนพูดและได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าพูดในมุมของ พล.อ.ประวิตรเอง แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกฯ จะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องนายกฯ ตัดสินใจ นายกฯ เก็บไว้ก่อนใช่ไหม เป็นเรื่องของนายกฯ บอกก่อนทำไม ทำไมต้องรีบบอก สถานการณ์เป็นตัวกำหนดทั้งหมด
"อยากให้ทุกคนคำนึงถึงว่าทุกวันนี้เรื่องอะไรสำคัญกว่าอะไร ประเทศชาติมีปัญหาสำคัญประชาชนเดือดร้อน ควรจะสำคัญกว่าอย่างอื่นก่อนหรือไม่ ที่ผ่านมาเมื่อไหร่ที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะที่ไม่ปกติ คนไทยทุกคนจะรวมพลังกันต่อสู้เอาชนะ จนอยู่รอดปลอดภัยถึงวันนี้ วันนี้เราจะแตกแยกกันไปถึงไหนกัน ปัญหาอะไรที่จะลดลงได้ให้ลดลงบ้าง ขอร้องกันแค่นั้นเอง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนจะถึงการประชุมเอเปค จะมีการประชุมหลายอย่างด้วยกัน จะประชุมต่อเนื่องกันไปจนถึงเอเปค ต้องดูว่าประชุมได้หรือไม่ได้ หรือประชุมอย่างไร แล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซีย-ยูเครน
ส่วนการรับประทานอาหารกับพรรคเล็กวันที่ 17 มี.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการพูดคุยเจอกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงๆ ก็คุยกับเขาอยู่แล้ว เจอกันหลายครั้งในสภา วันนี้ถือว่าเจอกันร่วมกันร่วมแรงร่วมใจกันทำเพื่อประเทศชาติกันดีกว่า อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ไม่มีอะไรเป็นประเด็น เป็นเรื่องของความไม่รักไม่สามัคคีไม่ให้เกียรติกันไม่ใช่ ให้เกียรติเสมอ เจอท่านอาวุโสน้อยกว่าก็สวัสดี อายุมากกว่าก็สวัสดีท่าน
"ไม่เคยคิดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีมันเป็นสุดยอดเมื่อไหร่ คนเรานะ ทำตัวให้หัวใจใหญ่สักหน่อยไม่ใช่หัวใจเล็ก หัวใจที่เราจะรู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกันให้อภัยกันและกัน คนที่ควรให้อภัย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องเสียงโหวตในสภาจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เสียงในสภา ผมบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคิดว่าทำไปแล้วประเทศชาติจะดีขึ้น ก็แล้วแต่ท่าน ทั้งนี้ ผมก็พูดคุยกับแกนนำรัฐบาลที่มาจากพรรคร่วมทุกวัน นอกจากการประชุมครม. ตนก็ติดต่อกับท่านทุกวัน ส่งไลน์คุยกัน เรื่องโน้นเรื่องนี้รับไปดูแลได้หรือไม่ ตนไม่ใช่นั่งเจออาทิตย์ละครั้ง ก็เจอกันทุกวันทุกกระทรวง มีเรื่องอะไรก็ให้ช่วยทำ อะไรที่ตนสามารถแนะนำได้ ก็จะบอกให้กระทรวงนั้นทำอะไร และกระทรวงนี้ไปทำอย่างนี้ต่อได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องทำงานและบริหารแบบนี้
เมื่อถามว่า จะต้องมีการปรับทัพอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีการปรับอะไรทั้งนั้น
เมื่อการพูดคุยระหว่างพล.อ.ประวิตร กับพรรคเล็กเมื่อวานนี้ มีการถามว่าจะมีแผนล้มนายกฯอะไรอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ให้มาล้มเถอะไป ใครจะล้มก็ล้มไปเถอะ ผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอ ผมให้เกียรติทุกคน มันจะเกิดประโยชน์อะไรกับใครผมถามหน่อยสิ ห๊ะ วันนี้ผมทำงานมาเท่าไหร่ อะไรมันสำเร็จมาบ้าง ไปเทียบดูก็ได้ ไปเทียบมาสิ 10 ปีที่ผ่านมา หรือ 8 ปีที่ผ่านมา ก็เทียบผลงานมากับผมเลยประชาชนไปแยกแยะเอาเองก็แล้วกัน"
ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.อ.ประวิตร ออกมาระบุเรื่องการยุบสภา เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า