ปดิพัทธ์ สินติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เดินหน้ายุทธการโรยเกลือ ยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผ่านนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนและตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ สรวิศ ธานีโต อธิบดีปศุสตว์ กรณีปล่อยให้ราคาหมูแพง จากการปกปิดการแพร่ระบาดโรคอหิวาต์หมู (ASF) ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152
โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับจากเอกชน ว่ากรมปศุสัตว์รับทราบเรื่องการเกิดโรคระบาดอหิวาต์หมูทั้งทางวาจาและเอกสาร ซึ่งชี้ได้ว่าอธิบดีฯรับทราบมาโดยตลอด ทุกประเทศเมื่อพบการแพร่ระบาดก็จะสามารถยับยั้งได้โดยเร็วอยู่บริเวณชายแดน แต่ประเทศไทยกลับละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดมาถึงใจกลางเมืองที่จังหวัดนครปฐม และราชบุรี สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินประชาชน เกิดการกินรวบผูกขาดทำให้หมูราคาแพง จึงย้ำว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ในการสอบสวน
ปดิพัทธ์ กล่าวว่า หากกรมปศุสัตว์ยังปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดโรคในสัตว์ เช่น กาฬโรคม้า ลัมปีสกินวัว อหิวาต์หมู สิ่งที่ตามมาคือไข้หวัดนกที่ 30 ประเทศประกาศพบแล้ว พร้อมกันนี้ยืนยันว่าประเทศไทยพบการแพร่ะบาดแล้วเช่นกันแต่ยังไม่ติดคน และอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ อย่างไรก็ตาม ตนห่วงเรื่องโรคระบาดสัตว์สู่คนมากกว่า ดังนั้นหากมีข้อมูลหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ส.ส.ก้าวไกล พร้อมที่จะนำเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี อย่างแน่นอน โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ปดิพัทธ์ ยังได้ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและศึกษาแนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น โดยให้เหตุผลว่าอยู่ไปคงไม่มีประโยชน์ เพราะไม่สามารถค้นหาความจริงที่อยากรู้ได้ เนื่องจากไม่สามารถเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาได้ โดยอ้างปัญหาโควิด-19 ทั้งที่สามารถประชุมผ่านซูมได้ จึงไม่จำเป็นที่อยู่ใน กมธ.ต่อไป