Skip to main content

วันที่ 26 มกราคม 2565 ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา โชว์ผลตรวจซากหมูตาย พบ ASF หรือ อหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งเป็นตัวอย่างจากฟาร์มแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม โดยมีสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา และนิติพล ผิวเหมาะ ร่วมเดินทางไปเก็บตัวอย่างและส่งตรวจยังแลปมหาวิทยาลัยรัฐบาลหลายแห่งช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบตัวอย่างซากหมูตายมีผลเป็นบวก และมีเชื้อไวรัสเป็นปริมาณมาก โดยปดิพัทธ์ ยืนยันว่าผลแลปดังกล่าวเป็นการชี้ชัดว่าเกิดการระบาดของ ASF ในวงกว้างจริง ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยอย่างที่กรมปศุสัตว์อ้าง

โดย ส.ส. จากพรรคก้าวไกล มีความตั้งใจจะผลักดันวาระโรคระบาด ASF และสภาวะของแพงให้เป็นวาระสำคัญที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน หลังจากการเปิดประชุมสภาที่ผ่านมา มีการจัดตั้ง กมธ. เพื่อศึกษากรณีโรคระบาดและหมูแพง โดยใช้ชื่อว่า "กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรและศึกษาแนวทางการช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น" และมีปดิพัทธ์ นั่งเป็นประธานอนุกรรมการใน กมธ. ดังกล่างด้วย

ไม่เพียงแต่ การเดินทางไปเก็บตัวอย่างซากสุกรที่ล้มตาย กลุ่มส.ส. พรรคก้าวไกลก็ได้เดินทางไปพูดคุยและหารือถึงแนวทางการระบาดของโรคกับปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม เนื่องจากพื้นที่จังหวัดนครปฐมเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรรายย่อยได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยทางปศุสัตว์แจ้งว่า ที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสอบผ่านวิธี active survilliance หรือ การเฝ้าระวังเชิงรุก มีการสุ่มตรวจตัวอย่างเพื่อหาโรค ซึ่งการเฝ้าระวังประเภทนี้ก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะไม่พบหมูที่ติดเชื้อ เพราะหมูที่มีการติดเชื้อถ้าติดเชื้อก็จะติดและตายเลยในระยะเวลาไม่นาน ส่งผลให้ค่าที่ได้ไม่แม่นยำ ซึ่งปดิพัทธ์เองก็มองว่า การเฝ้าระวังของกรมปศุสัตว์ยังไม่เพียงพอ ในการพิสูจน์หาแนวการระบาดของโรคได้ และหลังจากที่ได้ผลตรวจมาเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ ปดิพัทธ์ ได้สะท้อนถึงความแม่นยำของแลปกรมปศุสัตว์ที่ยังมีปัญหา และการตรวจสอบด้วยการเฝ้าระวังเชิงรุกที่มีช่องโหว่ ทำให้ไม่สามารถพบโรคระบาดและสะกัดพื้นที่การระบาดได้ทันท่วงที

โดยการส่งตรวจซากหมูจากฟาร์มที่ติดโรค ได้ทำการตรวจด้วยเทคนิค PCR ซึ่งจะสามารถพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส ซึ่งยากจะทำลาย ปรากฏอยู่บนซากหมูที่ตายแล้ว เนื้อเยื้อ ไขกระดูก ฯลฯ ทำให้สามารถสามารถพบเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ง่าย แม้จะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม

หลังจากที่มีการตรวจพบโรค ASF ปดิพัทธ์และเพื่อนส.ส. จากพรรคก้าวไกล ตั้งใจว่าจะใช้ กมธ. หมูแพง มาสืบสวนสอบสวนการเกิดโรคระบาด และศึกษาเพื่อหาข้อเสนอให้กับเกษตรกรรายย่อยที่แทบหมดตัวหลังการระบาดของโรคชนิดนี้ นอกจากปดิพัทธ์ ก็ยังมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขต 5 อย่างทนายเกรซ ชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล  ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอสามพราน พื้นที่ที่เกษตรกรเลี้ยงหมูรายย่อยไดัรับผลกระทบทั้งหมด เข้าร่วมศึกษากมธ. เพื่อหาทางออกให้กับเกษตรกร และศึกษาปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้

ASF เป็นเพียงแค่หนึ่งในโรคระบาดในสัตว์ที่กระทบกับเกษตรกรและกระทบกับแหล่งอาหารของประชาชนทุกคนเท่านั้น ส.ส.นิติพล ผิวเหมาะ จึงได้อภิปรายในการตั้ง กมธ.วิสามัญฯ แล้วว่าจะมีโรคระบาดในสัตว์อีกอย่างน้อย 3 โรค คือ โรคไข้หวัดนก โรคปากเท้าเปื่อยในวัว และโรคบลูทังในแพะ แกะ  (Bluetongue) หากกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆของรัฐยังปกปิดข้อมูล ไม่ป้องกันและควบคุมโรคระบาดในระบบปศุสัตว์ ซึ่งท้ายที่สุดจะกระทบกับประชาชนทุกคนทั้งเรื่องการทำมาหากินและเรื่องแหล่งอาหารของคนในประเทศไทย 

นอกจากนี้ ภารกิจเร่งด่วนของ กมธ. หมูแพง ที่จะต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็วคือ ตรวจสอบความแม่นยำของแลปกรมปศุสัตว์ และเรียกร้องวิธีการป้องกันที่เหมาะสม พร้อมทั้งติดตามปัญหาราคาเกษตรและสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ และป้องกันการนำเข้าเนื้อหมู เพื่อลดโอกาสการซ้ำเติมเกษตรกรรายย่อยเพื่อให้สามารถกลับมามีโอกาสเลี้ยงหมูได้ในอนาคต รวมถึงศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร เพราะวงเงินกู้ของรัฐบาล ผ่านธนาคารเกษตรฯ นั้นทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น เกษตรกรติดกับดักหนี้สินมากขึ้นและไม่มีต้นทุนในการกลับเข้าสู่การเลี้ยงหมูอีกครั้ง