กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เปิดรายงาน เหตุยิงผู้ชุมนุมหน้าสน. ดินแดงเมื่อ 16 ส.ค. – พบชายแต่งกายคล้ายกันก่อเหตุทั้ง 2 จุด – คณะทำงานตั้งข้อสังเกต ผู้ก่อเหตุปักหลักไล่ทำร้ายประชาชน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย อาจมีความเกี่ยวข้องกับตำรวจ
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และพ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานของ กมธ. ได้แถลงเปิดรายงานของคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง เหตุยิงผู้ชุมนุมหน้าสน. ดินแดง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เมื่อ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา
หลังจากการทำงานเกือบ 1 เดือน คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด 54 ตัวพื้นที่เกิดเหตุ และสัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เด็กชาย A อายุ 14 ปี ถูกยิงหน้าปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าบริเวณหัวไหล่ด้านหลัง ทะลุออกด้านหน้า และเด็กชาย B อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดง กระสุนเข้าบริเวณคอ และฝังอยู่ใกล้แกนสมอง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในอาการโคม่า
รายงานฉบับนี้ระบุว่า การชุมนุมวันที่ 16 สิงหาคม เริ่มจากจุดแรก ทำเนียบรัฐบาล และเมื่อตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้าจึงประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น. จากนั้น ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ไปรวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เริ่มยิงแก๊สน้ำตา ลงมาจากทางด่วนวิภาวดีรังสิต รวมถึงมีการนำรถน้ำจีโนผสมสารเคมีมาใช้ด้วย โดยผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยหนังสติ๊ก พลุ ประทัด และแสงเลเซอร์ รวมถึงเผาถังขยะและกรวยจราจร ต่อมาราว 20.00 น. คฝ. เริ่มยิงแก๊สน้ำตาเข้าแฟลตดินแดง
ในเวลาประมาณ 20.34 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดกรุงเทพมหานคร บริเวณแยกโรงกรองน้ำ จับภาพกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ประมาณ 12 คน ในชุดไปรเวท จอดรถที่ปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 และตรงเข้าทำร้ายผู้ชุมนุมที่รวมกลุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว และแม้ผู้ชุมนุมจะหนีไปแล้ว คนกลุ่มนี้ก็ยังคงปักหลักตรวจอาวุธและทำร้ายคนผ่านไปมา โดยเฉพาะชายเสื้อสีอ่อน กางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้าง มือหนึ่งถือปืน อีกมือใช้ไม้ไล่ฟาดประชาชนที่ผ่านไปมาด้วยท่าทีคุกคาม
เวลา 20.38 น. ปรากฏภาพชายชุดดำ วิ่งพร้อมเล็งปืนยิงไปทางกลุ่มคนริมถนน คาดว่าเขาคือ ผู้ที่ยิงเด็กชาย A สอดคล้องกับคําให้การของเด็กชาย A ที่บอกว่าขณะเขาขี่รถจักรยานยนต์ไปรับเพื่อนที่ไปร่วมชุมนุม มีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือไม้และปืนคล้ายลูกโม่หรือรีวอลโว่ดักอยู่กลางถนน เขาตัดสินใจทิ้งรถแล้ววิ่งหนี แต่ถูกไล่ตาม และถูกใช้ไม้ฟาดอย่างแรง เขามารู้ตัวว่าถูกยิงในภายหลัง คาดว่าอาจเป็นช่วงชุลมุนระหว่างถูกรุมตี
ต่อมา เวลา 20.42 น. กล้องวงจรปิดกรุงเทพมหานครจับภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขับมอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าซอยประชาสงเคราะห์ 21 ซึ่งเป็นซอยแคบๆ ที่ตรงไปยังด้านหลัง สน.ดินแดง และในเวลาไล่เลี่ยกัน ประชาชนบนแฟลตดินแดงได้ถ่ายคลิปวิดีโอที่เห็นชายหลายคนวิ่งอยู่ในซอยหน้าสน. มุ่งหน้าถนนมิตรไมตรี ยิงปืนไปทางถนนมิตรไมตรีอย่างน้อย 15 นัด โดยเสียงปืนในคลิป เป็นเสียงปืนจริง ซึ่งดังแตกต่างจากปืนที่ใช้กระสุนยาง
ในเวลา 20.44 น. ภาพวงจรปิดกล้องกรุงเทพมหานคร จับภาพเด็กชาย B วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรีมุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ เขาถูกยิงล้มลง และมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง รอยกระสุนเจาะตรงเข้ากำแพง ระบุว่าทิศทางการยิง ยิงตรงมาจากซอยหน้าสน. ดินแดง ซึ่งไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ เนื่องจากปากซอยถูกตำรวจกั้นรั้วกีดขวางกันผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมเผาสิ่งของบริเวณรั้วเป็นกองไฟกองใหญ่ นอกจากนี้ ในกล้องวงจรปิดยังจับภาพชายเสื้อสีอ่อน กางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้าง ยืนอยู่ปากซอยหน้าสน.ดินแดง ทิศทางที่กระสุนถูกยิงไปยังเด็กชาย B โดยชายคนดังกล่าวมีลักษณะการแต่งกายใกล้เคียงอย่างมากกับชายที่ปรากฏในเหตุการณ์ยิงเด็กชาย A
หลังเหตุการณ์คลี่คลายหลัง 21.00 น. ผู้สื่อข่าว The Reporters และไทยรัฐ ไลฟ์รายงานเหตุการณ์ ปรากฏภาพชายเสื้อขาวและเสื้อดำยืนอยู่หน้าสน.ดินแดง ซึ่งผู้สื่อข่าวเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชุมนุม แต่ต่อมาระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่
พ.ต.ต.ชวลิต แถลงว่า คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งพกปืนและไม้ ไล่ตีประชาชนนานถึง 8 นาที ในจุดที่เด็กชาย A ถูกยิง อีกทั้งยังอาจเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่อยู่หน้าสน. ดินแดงหลังเหตุการณ์คลี่คลาย ราวกับว่าคนกลุ่มนี้มั่นใจว่าจะไม่ถูกจับกุม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใส่ใจหาความจริงในเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับตำรวจ
ด้านณัฐชากล่าวว่า รายงานฉบับนี้เป็นผลจากการทำงานราว 2 สัปดาห์ของคณะทำงานแสวงหาความจริงของกมธ. ซึ่งสามารถสืบหาหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการใช้ความรุนแรงในบริเวณจุดเกิดเหตุจริง แต่ระยะเวลาผ่านมา 1 เดือนจากวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์กลับไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย และเจ้าหน้าที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการกล่าวอ้างว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของตำรวจ
ณัฐชากล่าวอีกว่า รายงานฉบับนี้ พร้อมคลิปหลักฐานทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทวงถามคำตอบจากตำรวจ และยังจะใช้ในการประกอบการดำเนินคดีที่แม่ของเด็กชาย B แจ้งความไว้ที่สน.ดินแดง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีแม้จะผ่านมา 1 เดือนแล้วนับจากเกิดเหตุ