สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยข้อมูลว่า กองทัพเมียนมาได้สังหารประชาชนไปถึง 1,006 รายแล้ว นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลของอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมาในวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยประชาชนที่ออกไปประท้วงต่อต้านการรัฐประหารถูกปราบปรามด้วยความรุนแรง รวมถึงมีการใช้กระสุนจริงด้วย แต่ประชาชนก็ยังคงออกไปชุมนุมบนท้องถนนกันทุกวัน
The Guardian รายงานอ้างอิง AAPP ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลทหารของเมียนมากล่าวหาว่าเป็นองค์กรที่ไม่ถูกกฎหมาย ได้ระบุว่า ตราบใดที่กองทัพเมียนมายังอยู่ในอำนาจ กองทัพก็จะสังหารเยาวชน และวิชาชีพอย่างแพทย์และครู ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก “พวกเขาไม่เพียงแต่พรากชีวิตพวกเรา แต่ยังฆ่าอนาคตและความหวังเรื่องประชาธิปไตยของประเทศไปด้วย”
นอกจากนี้ เลขาธิการของ AAPP ยังกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ใช้โควิด-19 เป็น “อาวุธ” จนคนติดเชื้อกันมากกว่า 363,000 คน และเสียชีวิตไปแล้วถึง 13,786 ราย ซึ่งวิกฤตด้านสาธารณสุขก็เกิดมาจากการที่บุคคลากรทางการแพทย์ในหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศร่วมกันหยุดงานประท้วงการรัฐประหาร ขณะที่ประชาชนก็ลังเลที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพ ส่งผลให้มีคนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อซื้อออกซิเจนและยารักษาโรคจากร้านขายยาทั่วนครย่างกุ้ง
ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาอ้างตลอดว่า การยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากกองทัพอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 และปัจจุบัน อองซาน ซูจี ก็ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา ตั้งแต่หาครอบครองเครื่องมือสื่อสารโดยผิดกฎหมาย ไปจนถึงข้อหาละเมิดกฎหมายคุ้มครองความลับของรัฐ ขณะที่พลเอกอาวุโสมินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา แต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมียนมาในรัฐบาลชั่วคราวจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่