Skip to main content

ประธานาธิบดี ‘โจ ไบเดน’ ของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมทางไกลกับผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน โดยประณามการรัฐประหารของกองทัพและความรุนแรงในเมียนมา พร้อมย้ำว่าความสำคัญของอาเซียนต่อสหรัฐฯ

ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่าประธานาธิบดีไบเดนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนแบบออนไลน์เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการรัฐประหารโดยกองทัพและความรุนแรงอันน่าสะพรึงที่เกิดขึ้นในเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการเมียนมายุติความรุนแรงทันที รวมถึงปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม และคืนหนทางกลับสู่ประชาธิปไตย

รัฐบาลทหารเมียนมาคว่ำบาตรการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จัดโดยบรูไน หลังพลเอกอาวุโส ‘มิน อ่อง หล่าย’ ผู้นำรัฐบาลเผด็จการถูกกีดกันออกจากการประชุมเพื่อตอบโต้การยึดอำนาจเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมาและส่งผลให้เกิดการปราบปรามผู้ต่อต้านอย่างนองเลือด ขณะที่ท่าทีหนักแน่นต่อกรณีเมียนมาของไบเดนมีขึ้นหลังผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงเปิดการประชุมว่าอาเซียนมีความสำคัญ และสหรัฐฯ ยึดมั่นในความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ไม่ใช่สมาชิก 10 ชาติอาเซียน แต่จากท่าทีต่างๆ ก็สะท้อนชัดว่าอาเซียนถูกมองเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของไบเดนในการต้านการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชียทั้งทางการทูต การค้าและการทหาร แม้ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้กล่าวถึงรัฐบาลจีนโดยตรง แต่ความสนใจของเขาก็ชัดเจนเมื่อเขาระบุว่า อาเซียนเป็นแกนสำคัญในการคงไว้ซึ่งภูมิภาคที่ทุกประเทศสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จบนสนามแข่งที่ทุกฝ่ายมีโอกาสเท่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือทรงอิทธิพลแค่ไหนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไบเดนยังระบุว่าความเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐฯ-อาเซียน สำคัญต่อการรักษาภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรีซึ่งเป็นรากฐานของความมั่งคงและความสำเร็จที่มีร่วมกันมานานหลายทศวรรษ พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ สนับสนุนทัศนะของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก และกฎเกณฑ์ตามระเบียบสากล
 

อ้างอิง

Biden denounces coup and 'horrific violence' in Myanmar at summit with Asean leaders