Skip to main content
  • ชาวทวิตเตอร์ตามอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนแฮชแท็กติดเทรนด์ช่วงเช้า
  • 10 รายชื่อที่ถูกอภิปราย เริ่มจาก ‘พล.อ.ประยุทธ์’ จนถึง ‘ร.อ.ธรรมนัส’
  • ประเด็นหลัก บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ
  • ฝ่ายค้านชี้การรายงานข่าวคนฆ่าตัวตายสมัยประยุทธ์สูงกว่าอดีตรัฐบาล

::: ประเด็นอภิปรายหลัก บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว แก้ปัญหาโควิดไร้ประสิทธิภาพ :::

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่ 16 ก.พ. และมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิด

ช่วงเช้าที่ผ่านมามีการทวีตข้อความเกี่ยวกับประเด็นที่อภิปรายอย่างต่อเนื่องกว่า 67,000 ข้อความ นับตั้งแต่ช่วงสาย 10:00 น.เป็นต้นมา ทำให้แฮชแท็ก #อภิปรายไม่ไว้วางใจ ติดอันดับยอดนิยม โดยมีทั้งผู้วิจารณ์รัฐบาลและผู้ที่กล่าวโจมตีฝ่ายค้านในทวิตเตอร์

ทั้งนี้ ‘สุทิน คลังแสง’ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อ 11:15 น. โดยเริ่มจากการแก้ปัญหาโควิด-19 ล้มเหลว สาเหตุมาจากปัญหาแรงงานเถื่อนและบ่อนการพนัน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ขณะที่การเยียวยาประชาชนไม่ทันท่วงที พร้อมระบุ การรายงานคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจในยุคประยุทธ์มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงการตั้งคำถามว่าวัคซีนต้านโควิดที่ไม่เข้าร่วมโครงการวัคซีนโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และไทยยังไม่ได้ฉีด ทั้งที่ประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เริ่มฉีดกันไปหมดแล้ว

ส่วนการเคลื่อนไหวนอกสภา มีการจัดกิจกรรม #คนเดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน โดย ประกาศราษฎร x เครือข่าย PeopleGO ซึ่งเป็นการเดินเท้าจากนครราชสีมาเข้ามายังกรุงเทพฯ รวม 247.5 ก.ม. และมีผู้นำการเดิน ได้แก่ นิมิตร์ เทียนอุดม ผู้นำเครือข่าย PeopleGO, จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และ อินทิรา เจริญปุระ ในฐานะตัวแทนราษฎร

::: เปิด 10 รายชื่อเป้าหมายอภิปรายไม่ไว้วางใจ :::

ส่วนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง 10 คน ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะถูกอภิปรายในประเด็น บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อสร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง สร้างผลกระทบต่อประชาชนในภาวะที่โควิด-19 แพร่ระบาด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี “ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้กับตนเอง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ทุจริต ต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองและพวกพ้อง ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ และไร้ความสามารถ ไม่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดในรอบสองอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว และประเด็นอื่นๆ เช่นเดียวกับ ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บริหารราชการแผ่นดินโดยมิได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม แต่กลับใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ เพื่อตนเองและพวกพ้อง ใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อวางแผนในการทุจริตอย่างเป็นระบบและแยบยล ปล่อยปละละเลยให้องค์กรในกำกับมีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ใช้อำนาจด้วยความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เสียสละ ไม่เปิดเผย แต่กลับปกปิดการกระทำความผิดของตนและบุคคลแวดล้อม ไม่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคารพหลักการสิทธิมนุษยชน ละเว้นและบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ ขาดวุฒิภาวะและความเป็นผู้นำที่ดี ใช้อำนาจแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำในลักษณะกดขี่ข่มเหงข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้มีบุคคลหลายรายซึ่งเป็นพวกพ้องของตนเข้าสู่ตำแหน่ง แสวงหาประโยชน์โดยการทุจริต และอื่นๆ

สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บริหารราชการผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยให้มีการแสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้แรงงาน ไม่กำกับควบคุมผู้ใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบ จนเกิดแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด จนส่งผลเสียหายแก่ประเทศและเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรง ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์ใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนและพวกพ้อง สร้างความแตกแยกให้เกิดในสังคม ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้ที่เห็นต่าง ละเมิดหลักนิติรัฐ

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บริหารรราชการแผ่นดินโดยเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายที่เกิดกับประเทศชาติและประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนผูกขาด เพื่อให้มีสิทธิดำเนินงานในกิจการของรัฐ โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ในหน่วยงานที่กำกับดูแล สมคบกันเพื่อปิดบังการทุจริต ไม่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่อง ล้มเหลวอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ และกระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยไม่รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด ปกปิดข้อมูลความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในการยื่นหรือการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าสู่ตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล กร่างเถื่อน และสร้างอิทธิพลให้กับบริวารและพวกพ้อง ปกป้องพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ เสนอให้มีการแต่งตั้งคู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยาเป็นข้าราชการการเมือง โดยไม่คำนึงถึงวุฒิภาวะและความเหมาะสม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง