Skip to main content

ช่วงเย็นวันนี้ 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวและลงนามในข้อตกลงความเข้าใจร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ที่โรงแรมคอนราดในกรุงเทพฯ โดยมีวาระร่วมกัน 23 ข้อ รวมถึงแนวทางการบริหารประเทศอีก 5 ข้อ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญกับประวัติศาสตร์การเมืองไทย เนื่องจากครบรอบการรัฐประหารปี 2557 และเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ 8 พรรคร่วมลงนามใน MOU ร่วมกัน นับเป็นหมุดหมายที่ดีที่สะท้อนถึงความสำเร็จของสังคมไทย ซึ่งเปลี่ยนผ่านกลับมาสู่ระบบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภาอย่างสันติ

ส่วนจุดประสงค์ในการจัดทำ MOU หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า เป็นการรวบรวมวาระร่วมที่เห็นตรงกัน และพร้อมผลักดันวาระต่างๆ ผ่านกลไกของรัฐบาลและรัฐสภา รวมทั้งเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

สำหรับเนื้อหาใน MOU ระบุว่า ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะผลักดันนั้น ต้องไม่กระทบต่อรูปแบบของรัฐ การปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และวาระที่ตกลงร่วมมีทั้งหมด 23 ข้อ กับ 5 แนวทางการบริหารประเทศ ดังนี้

1. ร่วมฟื้นฟูประชาธิปไตย จัดทำรัฐธรรมฉบับของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

2. ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่นับถือ

3. ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยึดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

4. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ ทั้งนี้ยังคงไว้ซึ่งการเกณฑ์ทหารยามศึกสงคราม

5. ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิสมนุษยชน และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนของหน่วยงานและการยังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง

6. ผลักดันการกระจายอำนาจ ทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปราศจากการทุจริต

7. แก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น โดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน

8. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม

9. ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากินและการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัดลดหรือพักใช้ชั่วคราวซึ่งการอนุมัติอนุญาตที่ไม่จำเป็น และเป็นอุปสรรค เพื่อปรับปุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงิน และสร้างแต้มต่อให้ SME พร้อมกับมุ่งการเติบโตของ GDP ของ SME สนบัสนุนอุตสาหกรรมและสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

10. ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพรรคประชาชาติขอสงวนสิทธิไม่เห็นด้วยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุผลด้านศาสนา

11. ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบด้วยการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม แก้ไขปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงทบทวนคดีที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า

12. ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน และสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

13. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ หรือที่เรียกว่า 'zero base budgeting'

14. สร้างสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว

15. แก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเร่งด่วน

16. นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ ผ่านการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขโดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา

17. ส่งเสริมเกาตรและปศุสัตว์ปลอดภัย ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มการเข้าถึงตลาด เทคโนโลยี และแหล่งน้ำ สร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิต และรักษาผลประโยชน์เกษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตการเกษตรเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

18. แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน

19. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและากรเติบโตของเศรษฐกิจ

20. ยกระดับระบบสาธารณสุข เพื่อทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทั้งการส่งเสริม การป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพ

21. ปฏิรูปการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

22. สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงลดการปล่อยก๊าซสุทธิให้เป็นศูนย์โดยเร็วที่สุด

23. ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำไทยในอาเซียนและเวทีระหว่างประเทศตามกรอบความร่วมมือต่าง โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือพหุภาคี รวมถึงรักษาสมดุลการเมืองระหว่าประเทศไทยและประเทศมหาอำนาจ

ทุกพรรคเห็นพ้องว่าการร่วมกันบริหารประเทศด้วยแนวทางการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

1. ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน

2. ทุกพรรคจะทำงานโดยสื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่น ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที

3. ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งมากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง

4. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอำนาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง

5. ทุกพรรคมีสิทธิผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงนี้ โดยอาศํยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง