Skip to main content

หลานชายอดีตผู้นำเผด็จการเกาหลีใต้ 'ชุน ดูฮวาน' ขอโทษเหยื่อและครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์สังหารหมู่ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองควังจู ในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 หรือ May18 เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา

'ชุน วูวอน' วัย 27 ปี คุกเข่าแสดงการขอโทษครอบครัวและผู้ที่สูญเสียจากการปราบปรามด้วยกำลังในการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยที่เมืองควังจู เดือนพฤษภาคมปี 1980

วูวอน เดินทางจากโซลมายังศูนย์วัฒนธรรมและอนุสรณ์สถานเหตุการณ์ 18 พฤษภาคมที่เมืองควังจู เพื่อมาพบกับครอบครัวผู้สูญเสียและเหยื่อของการปราบปรามที่ยังมีชีวิตอยู่ วูวอนเรียกปู่ของเขาว่า 'อาชญากร' โดยกล่าวว่าเป็นผู้ตีตราเหล่าวีรชนผู้ต่อต้านเผด็จการทหาร ซึ่งปกครองประเทศภายใต้รองเท้าบู๊ท ขณะที่บอกว่าส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย

ชุน ดูฮวาน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระหว่างปี 1980-1988 จากการทำรัฐประหารโดยใช้กองทัพ เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงคำสั่งให้ทหารใช้กำลังกวาดล้างการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 หลายร้อยคน

“ปู่ของผม ชุน ดูฮวาน เป็นคนบาปที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่เพียงแต่ครอบครัวของผม ผมก็เป็นคนบาปที่น่าอัปลักษณ์อีกด้วย”

ครอบครัวผู้สูญเสียบางครอบครัวยอมรับการขอโทษ ผู้เป็นแม่ที่เข้าสู่วัยชราและสูญเสียลูกอันเป็นที่รักมานานกว่า 40 ปีสวมกอดวูวอน และรู้สึกซาบซึ้งใจในความกล้าหาญของเขาที่ออกมาแสดงการขอโทษ

“เราปรารถนาที่จะรับการขอโทษอย่างนอบน้อมในความกล้าหาญของเขา แต่เขาไม่สมควรถูกมองว่าเป็นวีรบุรุษ” ยัง เจฮยุก ประธานสหภาพครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ May18 กล่าว

วูวอนกล่าวว่า เขาได้รับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองแบบไม่ถูกต้องและบิดเบือนมาจากครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เขาเคยเชื่อว่าขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยคือการก่อจราจล ขณะที่ปู่และครอบครัวของเขาเป็นทั้งวีรบุรุษและเหยื่อ

วูวอนยังได้เดินทางมายังอนุสรณ์สถานแห่งชาติเหตุการณ์ 18 พฤษภาคม เพื่อแสดงความคารวะต่อผู้สูญเสียชีวิต เขาเขียนข้อความในสมุดผู้มาเยือนว่า “ทุกท่านที่พักอย่างสงบที่นี่คือบิดาของประชาธิปไตยที่แท้จริง”

วูวอนเดินทางจากนิวยอร์กมาถึงเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เขาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่สนามบินอินชอนเมื่อมาถึง และถูกสอบสวนข้อหาใช้ยาเสพติดผิดกฎหมายนาน 38 ช.ม.ก่อนได้รับการปล่อยตัว และเดินทางมาแสดงการขอโทษผู้สูญเสียในเหตุการณ์ May18 ที่เมืองควังจู