Skip to main content

ฟินแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกในปี 2023 และติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ขณะที่ อัฟกานิสถานเป็นประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลก ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 60

The World Happiness Report รายงานการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขประจำปี 2023 จากทั้งหมด 137 ประเทศทั่วโลก โดยใช้ตัวแปร ประกอบด้วย จีดีพีต่อหัวประชากรต่อปี การเกื้อหนุนทางสังคม สุขภาพในช่วงอายุ เสรีภาพในทางเลือกชีวิต ความเอื้อเฟื้อ และเสรีภาพจากคอรัปชั่น นอกจากนั้น รายงานยังให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นฐานสิทธิมนุษยชน การปราศจากการเลือกปฏิบัติ สิทธิในชีวิตและเสรีภาพ อิสรภาพจากการตกเป็นทาสและการถูกทรมาน เสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น และสิทธิในการทำงานและการศึกษา

สำหรับคำถามพื้นฐานที่ใช้วัดระดับความสุขของประชาชนในประเทศต่างคือ ความรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ในขณะนี้หรือไม่ โดยให้เลือกตอบตามระดับความพอใจจาก 0-10 (0 คือ ไม่พึงพอใจเลย และ 10 คือ พึงพอใจอย่างที่สุด)

10 อันดับแรกของประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 ที่ 1 ได้แก่ ฟินแลนด์ ที่ 2 เดนมาร์ก ที่ 3ไอซ์แลนด์ ที่ 4 อิสราเอล ที่ 5 เนเธอร์แลนด์ ที่ 6 สวีเดน ที่ 7 นอรเวย์ ที่ 8 สวิตเซอร์แลนด์ ที่ 9 ลักเซมเบอร์ก และที่ 10 นิวซีแลนด์

ขณะที่ 10 อันดับสุดท้ายของประเทศที่มีความสุขน้อยที่สุดในโลกในปีนี้ ที่ 1 คืออัฟกานิสถาน ที่ 2 เลบานอน ที่ 3 เซียร์ราลีโอน ที่ 4 ซิมบับเว ที่ 5 คองโก ที่ 6 บอสวานา ที่ 7 มาลาวี ที่ 8 โคโมรอส ที่ 9 แทนซาเนีย ที่ 10 แซมเบีย

ในรายงานThe World Happiness Report ระบุว่า ในปี 2021 และ 2022 ระดับของความเห็นอกเห็นใจทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น จากการระบาดใหญ่ของโควิด พบว่าปี 2022 ประชาชนมีแนวโน้มที่จะมีเมตตาและเห็นใจผู้อื่นเพิ่มขึ้นราว 25% จากช่วงเวลาก่อนการระบาดของโควิด นอกจากนั้น สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังทำให้ระดับความเห็นอกเห็นใจเพิ่มขึ้นด้วย โดยความเห็นอกเห็นใจเพิ่มขึ้นในฝั่งยูเครน และลดลงในฝั่งของรัสเซีย

ฮันทิงตันโพสต์สรุปถึงปัจจัยที่อาจส่งผลทำให้ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก โดยสรุปว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากลักษณะนิสัย 6 อย่างของชาวฟินแลนด์ที่ต่างจากคนชาติอื่นๆ

1) ชาวฟินแลนด์ปิดบังอารมณ์ความรู้สึกน้อยกว่าชาติอื่นๆ และสามารถอดทนต่อการแสดงออกซึ่งความรู้สึกไม่ดีอย่างตรงไปตรงมา เช่น 'ฉันไม่โอเค' หรือ 'ฉันไม่ได้รู้สึกดี' ซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์แบบตรงไปตรงมาอาจทำให้ฟินแลนด์มีความสุข

2) ให้ความสำคัญกับเวิร์คไลฟ์บาลานซ์ แม้ชาวฟินแลนด์จะทำงานหนัก แต่ก็มีชั่วโมงทำงานที่สมเหตุสมผล และมีเวลาพักผ่อนในทุกวันของชีวิต เพื่อให้ชาวฟินแลนด์ได้ดูแลตัวเอง

3) สามารถเข้าถึงธรรมชาติได้ทุกหนแห่ง ฟินแลนด์มีธรรมชาติที่สวยงามและอยู่ใกล้ในทุกที่ ธรรมชาติมีส่วนสำคัญทำให้ชาวฟินแลนด์มีชีวิตที่มีความสุข โดยสามารถเข้าถึงป่า ทะเลสาบ ชายทะเลทุกแห่ง สามารถทำกิจกรรมแคมปิ้ง เก็บลูกเบอรี่ เก็บเห็ด ปีนเขา ขี่ม้า เล่นสกี ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงิน

4) การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ชาวฟินแลนด์กระตือรือล้นที่จะพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้อาจเป็นเรื่องพื้นๆ อย่างทักษะการทำอาหาร หรือทักษะการเดินเรือ ในฟินแลนด์มีสมาคมจำนวนมากที่ประชาชนสามารถมาทำงานอดิเรกร่วมกัน เช่น การทำเครื่องปั้นดินเผา หรือโยคะ

5) ฟินแลนด์เป็นสังคมที่คนเชื่อถือได้ ระดับความน่าเชื่อถือของชาวฟินแลนด์อยู่ในระดับที่สูงมาก

6) นิสัยรักสันโดษ ชาวฟินแลนด์กล่าวว่า ความสุขไม่ได้หมายถึงการมีความสุขแบบสุดขีด คอนเซ็ปต์ของชาวฟินแลนด์คือ ความรู้สึกมั่นคงกับการอยู่อย่างสันโดษด้วยตัวเอง อาจเรียบง่ายกว่าการมองหาความสุขแบบเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่มีส่วนกำหนดความสุขของชาวฟินแลนด์ด้วย เช่น ระดับอาชญากรรมที่ต่ำ รายได้ที่สูง สวัสดิการสังคม และอื่นๆ