Skip to main content

รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าว กรณีเรื่องปัญหาในวงการตำรวจที่ตกเป็นข่าวประจำวัน เรื่องอื้อฉาวในวงการตำรวจ กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่ตอนนี้กำลังดิ่งลงเหว ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้วงการตำรวจยังมีเรื่องอื้อฉาวให้เราตั้งคำถามว่าเรายังสามารถเชื่อถือองค์กรนี้ได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

1.เหตุการณ์การกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู 
2.กรณีตำรวจชั้นประทวนยิงตัวเองที่งานแต่ง แกว่งปืนที่จังหวัดภูเก็ต 
3.กรณีคลับวัน ที่มีเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐไปเรียกรับสินบน
4.กรณี 'เค ร้อยล้าน' ที่มีการขู่ว่ามีระเบิด ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
5.กรณีตำรวจหน่วย SWAT ที่ยิงคู่กรณีในผับแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง
6.กรณีไฟไหม้ผับเมาเทนต์บี จังหวัดชลบุรี ที่มีกระแสเกี่ยวข้องกับการรับสินบน
7.กรณี ส.ว. ที่มีการฝากเข้ารับตำแหน่งของสิบตำรวจโทหญิงกรศศิร์
8.กรณีการจับกุมยาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับลูกเขยของ ส.ว. คนหนึ่ง
9.กรณีการทุจริตในกองบินตำรวจที่ตนอภิปรายในสภา

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทำลายชื่อเสียงและความเชื่อมั่นที่พี่น้องประชาชนมีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก คำถามสำคัญคือเมื่อไหร่ เราจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นของการแก้ปัญหาภายในองค์กรตำรวจเสียที เพราะหากปัญหาแบบนี้ยังมีอยู่แล้วจะพิทักษ์สันติราษฎร์ให้แก่ประชาชนได้อย่างไร

พร้อมระบุถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า ตนเข้าใจว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เพียง 26 วัน แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่เห็นแนวโน้มขององค์กรตำรวจไปในทิศทางที่ดี ซึ่งตอนประกาศนโยบายมองว่าน่าผิดหวังที่ไม่แตะต้องปัญหาเชิงโครงสร้างขององค์กรตำรวจ

“ใน 26 วัน เกิดเรื่องราวต่างๆ ภายใต้องค์กรของตัวท่านเอง ผมเข้าใจดีว่าตัวแทนคงเหลือระยะเวลาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกไม่นาน ก็ต้องไป แต่ควรจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุดด้วย”

โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุต่อว่า ตนขอมอบการบ้าน 7 ข้อให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลเรื่องนี้ 

1.นำสิ่งที่มีการอภิปรายไว้ในสภาที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันของตำรวจเข้ามาตรวจสอบและเร่งดำเนินการจัดการคนผิดให้ได้ เช่น เรื่องทุจริตกองบินตำรวจ ที่ทุกอย่างมีความชัดเจนอยู่แล้ว มีหลักฐานครบถ้วน ถือว่าเป็นการป้องกันข้อคอรหาว่าช่วยเหลือพวกพ้อง ปกป้องคนผิด

2.จะต้องมีการจัดการอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อขายตำแหน่งกัน เป็นการป้องกันระบบตั๋วช้าง ซึ่งเป็นการชักนำสำคัญ ที่ทำให้คนมีสี เข้าไปเกี่ยวข้องในธุรกิจผิดกฎหมาย

3.ให้ความสำคัญกับตำรวจชั้นผู้น้อยดูแลสวัสดิการอย่างจริงจัง รวมไปถึงไม่เพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่ต้องซื้อเอง กระดาษ น้ำมัน ที่ต้องเติมเอง

4.จัดการเรื่องปืนเถื่อนอย่างจริงจัง เพื่อลดเรื่องความจำเป็นที่ประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐครอบครองปืน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการควบคุมการใช้อาวุธปืนในอนาคต

5.กรณีคลับวัน จะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่ามีการรับสินบนหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบดูว่าการที่ไม่มีการตรวจสารเสพติดเลย และไม่มีการควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องที่โวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการละเมิดต่อกฎหมายใดบ้าง และเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยชอบหรือไม่

6.กลับมาทบทวนเรื่องการจัดลำดับความสำคัญของภารกิจตำรวจใหม่ ว่าเรื่องไหนสำคัญ เรื่องไหนไม่สำคัญ ไม่ใช่กับคนเห็นต่างทางการเมือง ก็ปฏิบัติราวกับเป็นผู้ก่อการร้าย แต่กลับบุคคลที่เป็นอันตราย หรือภารกิจอาชญากรรม กลับทำได้ไม่เต็มที่

7.การดำเนินคดีแบบไม่มีความเหมาะสมต้องเลิกได้แล้ว ตำรวจต้องมีหน้าที่วินิจฉัยกฎหมายด้วย ไม่ใช่ส่งไปเป็นหน้าที่ของผู้พิพากษาเท่านั้น