Skip to main content

การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่มีวราเทพ รัตนากร รองประธานกมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติตามความเห็นที่อนุกมธ. 9 คณะที่เสนอการปรับลดงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ โดยส่วนใหญ่ที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอของอนุกมธ. ที่เสนอให้ปรับลดงบประมาณลง แต่ในส่วนคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ และไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียนที่พิจารณาการอุทธรณ์ของกองทัพอากาศ ที่ขออุทธรณ์งบประมาณ 369.1345 ล้านบาท จาก 738.2690 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องบินโจมตี F-35A จำนวน 2 ลำ (เครื่องเปล่า ไม่มีอาวุธ) ระยะที่ 1 ที่ประชุมเห็นด้วยกับการอุทธรณ์ของกองทัพอากาศด้วยคะแนน 45 เสียง ต่อ 22 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ซึ่งเท่ากับว่า กมธ.ชุดใหญ่อนุมัติให้จัดซื้อเครื่องบินโจมตี F-35A จำนวน 2 ลำ วงเงิน 369.1345 ล้านบาทตามที่กองทัพอากาศอุทธรณ์

ที่ประชุมเห็นด้วยการอุทธรณ์ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับการสร้างโรงงานผลิตวัตถุระเบิดที่จ.ลพบุรี วงเงิน 171.6 ล้านบาท ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 38 เสียง ต่อ 24 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ส่วนอนุกมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์เสนอปรับลดงบประมาณในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศจำนวน 150 ล้านบาท แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอคืน ซึ่งที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับคำขออุทธรณ์ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศคืนเงิน 150 ล้านบาทตามวงเงินเดิมที่ขอมา และที่ประชุมยังเห็นด้วยกับการอุทธรณ์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานวงเงิน 105 ล้านบาท

ผบ.ทอ.ขอบคุณ ย้ำทำเกิดประโยชน์สูงสุด ไร้คอร์รัปชัน

ภายหลังคณะกรรมาธิการงบประมาณ 2566 ได้พิจารณาคำอุทธรณ์ โครงการจัดซื้อ F-35 A ของ กองทัพอากาศ และได้มติให้ผ่านโครงการด้วยคะแนน 45 ต่อ 22 เสียง โดยมีข้อจำกัดประกอบด้วยปรับลดเงินงบประมาณจาก 738 ล้านบาท เหลือ 369 ล้านบาท โดยห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณและถ้าสภาคองเกรสไม่อนุมัติขายให้กองทัพอากาศไทยให้ทำการคืนงบประมาณ

ล่าสุด พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. ได้ระบุว่า ขอขอบคุณคณะกรรมาธิการงบประมาณ 2566 ที่ผ่านโครงการจัดซื้อ F-35 A ของ กองทัพอากาศและเห็นด้วยกับความสำคัญของกองทัพอากาศ ในภารกิจป้องกันประเทศ ขอยืนยันว่างบประมาณที่ได้รับจะดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะทำอย่างเต็มความสามารถ ให้มีความโปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน