พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นตอบชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล วันที่หนึ่ง ภายหลังจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงญัตติเสร็จสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสพบกันในวันนี้ ถือเป็นวาระสำคัญของชาติระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติช่วยขบคิดกัน ส่วนฝ่ายข้างนอกที่ท่านว่ามาลงมตินอกสภาฯ ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเหมือนกัน เพราะไม่อยู่ในระบบบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนข้อหาที่ นพ.ชลน่าน แถลงในญัตติว่า ถ้าไม่ฟังว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง หรืออาจจะฟังไม่ครบ ฟังไม่หมด หรือฟังด้วยอวัยวะข้างเดียว ท่านเลยพูดแรง ผมก็ต้องพูดเหมือนกันนะ ท่านมองข้างเดียว ส่วนเมื่อกี้ที่กล่าวหาว่ารัฐบาล 608 เราต้องให้เกียรติกลุ่ม 608 เขาด้วย เขาเป็นผู้สูงอายุ ผู้เสี่ยงของการติดโรค โดยเฉพาะสุขภาพ ที่เราต้องดูแลเขา
“ท่าน (นพ.ชลน่าน) เป็นบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้ว ฉลาดกว่าผมอยู่แล้ว โชคดีที่ผมไม่ได้ไปรักษาอะไรกับท่าน เพราะท่านว่าผมมีอาการพิการทางสมอง ถ้าผมเป็นผมก็โชคดีที่ไม่ไปรักษาอะไรกับท่าน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความขัดแย้งของคนในชาติว่า สิบกว่าปีมาแล้ว ผมไม่ใช่คนทำให้เกิดความขัดแย้ง ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ย้อนกลับไปดูความผิด ย้อนกลับไปดูคนที่ติดคุก แต่แม้เราจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่าง แต่เราจะต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ผมไม่ต้องการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ท่านก็รู้พฤติกรรมดีว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ท่านบอกว่าผมบังคับใช้กฎหมายละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่เป็นกฎหมายปกติทั่วไปใช่หรือไม่ แต่หลายคนอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้
“ผมไม่อาจจะกล่าวอ้างว่าผมดีที่สุด เก่งที่สุด ท่านพูดเอง หลายอย่างที่ท่านพูดมาไม่ใช่ข้อเท็จจริง ... นายกฯ ไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดทุกเรื่อง เหมือนบางคนที่ท่านบอกฉลาดที่สุด ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ... ผมก็ไม่ได้ด้อยค่ากว่านายกรัฐมนตรีท่านอื่น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยกความสำเร็จของรัฐบาลว่า ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมีการประกาศนโยบายวิสัยทัศน์ประเทศไทย นโยบาย THAILAND 4.0 การส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เป็นรายละเอียดว่าคือวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ประกอบกับช่วงเวลานี้เราเปิดประเทศได้มากขึ้นตามลำดับ ทำให้ประเทศดีขึ้น ระบบเศรษฐกิจก็ดีขึ้น นี่คือผลงาน ท่านไม่เห็นหรือไง ท่านไม่ดูอะไรเลย ผมกับรัฐมนตรีก็เห็นมาหลายครั้งทั้งในสภาฯ นอกสภาฯ ในวาระ นอกวาระ ก็ไม่เป็นไร ก็พร้อมจะให้ความกระจ่าง
“ท่านลองไปหาสิ่งที่ดี ๆ มองด้วยสายตาสองข้าง หูสองหู มันจะเห็นอะไรที่มันดี ๆ บ้าง ... ถ้าท่านมองด้วยหัวใจ ท่านก็จะสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน ท่านบอกว่าผมพูดว่าสองปีอยากอยู่ต่อไม่อยู่ต่อ ไปดูว่าผมหมายถึงอะไร ผมบอกว่าสองปีมันจะผลิดอกออกผลออกมา ไม่ได้บอกขออยู่อีกสองปี คุณเอาทุกเรื่องมาตีหมดแบบนี้ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ให้เกียรติกัน ถ้าอยากได้รับเกียรติจากคนอื่น ก็ต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่นเขา ถ้าโจมตีให้ร้าย พูดจาส่อเสียด การพูดจาที่ดูแล้วไม่ใช่สุภาพบุรุษผมไม่อยากให้เกิดขึ้นในสภาฯ นี้ ผมให้เกียรติสภาฯ ให้เกียรติประธานฯ ให้เกียรติสมาชิกทุกคน