คุณแม่ชาวอเมริกันในรัฐเพนซิลเวเนีย เปิดร้านคาเฟ่เพื่อให้ลูกชายออทิสติกวัย 20 ปี ได้เรียนรู้การทำงาน พร้อมชวนเพื่อนๆ ของลูกชายที่เป็นออทิสติกเหมือนกันได้มาทำงาน หลังจากเธอและผู้ปกครองคนอื่นๆ รู้สึกกังวลว่า อนาคตลูกๆ ของพวกเขาจะเปฺ็นอย่างไรหากพวกเขาจากไปในอนาคต
มอรีน สแตนโก คุณแม่ชาวอเมริกัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา รู้ดีว่า “นิค” ลูกชายออทิสติกของเธอมีความสามารถมากกว่าที่ใครหลายคนคิด แต่นิคในวัย 20 ปีและใกล้จะเรียนจบแล้ว กลับทำให้มอรีนรู้สึกกังวลจนนอนไม่หลับ เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของลูกชายหลังจากที่ไม่มีเธออยู่แล้ว ทั้งนี้ รัฐเพนซิลเวเนียมีกฎหมายระบุว่า นักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเรียนรู้ สามารถเรียนหนังสือในโรงเรียนได้จนถึงอายุ 22 ปี
มอรีนเล่าว่า เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆ และพวกเขาต่างก็รู้สึกกังวลถึงเรื่องอนาคตของลูกๆ เช่นเดียวกับเธอ เมื่อรู้ดังนั้น มอรีนจึงมีความคิดที่จะมอบอาชีพและสร้างโอกาสในการมีชีวิตอยู่ได้ให้กับลูกชายและเพื่อนๆ ของพวกเขา ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นร้านคาเฟ่ ชื่อว่า So Much To Give Inclusive Café
So Much To Give Inclusive Café ตั้งอยู่ในเมืองซีดาร์ รัฐเพนซิลเวเนีย มีพนักงานทั้งหมด 63 คน และร้อยละ 80 ของพนักงานในร้านเป็นผู้มีความบกพร่องทางร่างกายและการเรียนรู้ ซึ่งทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้า เสิร์ฟอาหาร เป็นผู้ช่วยเชฟ พนักงานล้างจาน และบริกร
So Much To Give Inclusive Café ที่มา: อินสตาแกรม somuchtogiveinclusivecafe
คาเฟ่แห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานสำหรับเด็กๆ ออทิสติกเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเรียนรู้ ในการมารับประทานอาหารนอกบ้านอีกด้วย
“เราไม่เคยพานิคไปกินอาหารที่ร้านมาก่อน เพราะมันไม่คุ้มค่า เราเสียเงินออกไปกินข้าวนอกบ้านเพื่อทำให้ตัวเองเครียดหนักกว่าเดิม แต่ร้านคาเฟ่แห่งนี้ได้สอนให้นิครู้จักการกินอาหารนอกบ้าน ตอนนี้ถ้าเรามากินอาหารที่ร้าน นิคจะลุกกระโดดเหมือนกระต่าย ปรบมือ หรือตะโกน ก็จะไม่มีใครสนใจ” มอรีนเล่า
ที่มา: อินสตาแกรม somuchtogiveinclusivecafe
ลอเรน ออปเพลทส์ ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน เป็นหนึ่งในพนักงานของร้าน เธอทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับและครูสอนภาษามือ
“หากคุณบอกฉันเมื่อสองปีที่แล้วว่า ฉันจะได้ทำงานเป็นคนเสิร์ฟอาหาร ฉันคงไม่เชื่อคุณแน่ๆ แต่การได้มาทำงานที่นี่ทำให้ฉันมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และพนักงานอีกหลายคนที่นี่ก็เติบโตขึ้นอย่างน่าทึ่งเช่นกัน” ลอเรนบอก
มอรีนยังมีความฝันที่จะสร้างพื้นที่สอนอาชีพให้กับเด็กๆ ที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเรียนรู้ โดยเปิดสอนดนตรี ทักษะชีวิต งานฝีมือ และชั้นเรียนอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับพวกเขา
“ตอนแรกฉันคิดว่า So Much To Give Inclusive Cafe จะเป็นคาเฟ่ของนิคและเด็กคนอื่นๆ ที่มีความสามารถแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ คือ คาเฟ่แห่งนี้ไม่ได้เป็นของพวกเขากลุ่มเดียวเท่านั้น แต่เป็นคาเฟ่สำหรับทุกคน” มอรีนกล่าว
อ้างอิง
อินสตาแกรมของร้าน somuchtogiveinclusivecafe
She knew her son and other people with disabilities have so much to give. So, she opened a cafe to employ them.