โรงเรียนในประเทศเม็กซิโกมีเวลาทั้งหมด 6 เดือนในการดำเนินการจัดการกับอาหารขยะ หรือต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมหาศาล หลังจากที่เม็กซิโกกำลังเจอปัญหาโรคอ้วนในเด็กที่เลวร้ายที่สุดในโลก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารในโรงเรียนหลายชนิดเป็น “อาหารขยะ” ที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของเด็ก และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิด “โรคอ้วนในเด็ก” ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ เช่นเดียวกับประเทศเม็กซิโกที่ปัญหาดังกล่าวนับว่ากำลังที่เลวร้ายที่สุดในโลก
ทางการเม็กซิโกจึงออกนโยบายใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาโรคอ้วนในเด็ก โดยกำหนดเวลา 6 เดือนให้โรงเรียนต่างๆ ในประเทศเม็กซิโกจัดการกับอาหารขยะหรือผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมู่เด็กนักเรียน ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล มันฝรั่งทอด หนังหมูทอด และถั่วลิสงเคลือบรสเค็มผสมพริก หากโรงเรียนใดไม่สามารถทำได้ตามนโยบายดังกล่าว ก็อาจจะต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมหาศาลจากทางการ
นโยบายนี้เกิดขึ้นหลังรายงานของหน่วยงานเด็กแห่งสหประชาชาติ ชี้ว่าเด็กๆ ในเม็กซิโกมีการบริโภคอาหารขยะมากที่สุดในแถบประเทศละตินอเมริกา และเด็กประมาณ 1 ใน 3 ของเม็กซิโกกำลังมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
คลอเดีย ชีนบัม ประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโก กล่าวว่าโรงเรียนต่างๆ ต้องติดตั้งตู้กดน้ำหรือมีทางเลือกของว่างที่มีประโยชน์กับเด็กนักเรียน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนส่วนใหญ่หรือมากกว่า 255,000 แห่งในเม็กซิโก ไม่มีบริการน้ำดื่มฟรีสำหรับนักเรียน
ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2010 - 2020 ประเทศเม็กซิโกได้จัดทำป้ายคำเตือนหน้าบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อแนะนำผู้บริโภคเกี่ยวกับปริมาณเกลือ น้ำตาล แคลอรีส่วนเกิน และไขมันอิ่มตัวในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ทั้งนี้ ภายในนโยบายใหม่ล่าสุดของทางการเม็กซิโก โรงเรียนต้องเลิกใช้หรือเลิกขายผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีป้ายคำเตือนเหล่านี้ในโรงเรียน
แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางการเม็กซิโกจะบังคับใช้นโยบายนี้กับร้านขายขนมนอกโรงเรียนอย่างไร และมากกว่า 77% ของโรงเรียนในเม็กซิโกก็มีร้านขายขนมแบบนี้ตั้งอยู่รอบๆ โรงเรียน
อ้างอิง
Schools in Mexico have six months to ban junk food sales or face heavy fines