Skip to main content

 

Libertus Machinus
 

 

ในวันที่ 1 ตุลาคม 2024 คนงานท่าเรือฝั่งทะเลตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจำนวน 45,000 คน พร้อมใจกันเดินออกจากท่าเรือ เหตุเกิดจากจากสหภาพแรงงานท่าเรือฝั่งตะวันออกอย่าง International Longshoremen's Association (ILA) ทำการนัดสมาชิกสหภาพแรงงานท่าเรือหยุดงาน เพื่อทำการต่อรองใน 2 ประเด็น อย่างแรก คือ ต่อรองเพิ่มค่าแรงหลังจากสัญญาเก่าหมดไปในวันที่ 30 กันยายน 2024 อย่างที่สอง คือ ต่อรองเรื่องการจำกัดการใช้เครื่องจักรมาทดแทนแรงงานท่าเรือ

ท่าเรือฝั่งตะวันออกของอเมริกาเป็นอัมพาตราว 3 วัน ไม่มีสินค้าขึ้นลงจากเรือส่งสินค้า และในวันที่ 4 ตุลาคม 2024 ฝั่งสหภาพและองค์กรนายจ้างก็แถลงร่วมกันว่า สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องค่าแรงแล้วที่จะขึ้นไป 62% จากเดิม ส่วนเรื่องการใช้เครื่องจักร จะมีการเจรจาต่อโดยมีเส้นตายในกลางเดือนมกราคม 2025 แต่ระหว่างนี้คนงานท่าเรือสามารถกลับมาทำงานได้โดยจะได้รับค่าแรงใหม่ที่ต่อรองเพิ่มไปแล้ว

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก แบบที่หลายคนน่าจะไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ แต่จากมุมของการต่อสู้ของแรงงาน เรื่องมันเกิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขนาดนี้ มันเกิดจากภูมิหลังอันยาวนานของสหภาพรวมถึงกลยุทธ์ที่ใช้ในการต่อรองด้วย ซึ่งก็ต้องเล่าย้อนกันหน่อยถ้าจะทำให้เข้าใจ

สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ประเทศที่มีชื่อเสียงว่าสหภาพแรงงานมีความทรงพลังอะไร ส่วนหนึ่งก็มาจากที่ประเทศนี้มีประวัติการปราบคอมมิวนิสต์อย่างจริงจังมาตลอดศตวรรษที่ 20 และสหภาพต่างๆ ที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ และพยายามจะเรียกร้องสิ่งต่างๆ จาก "รัฐ" นั้น รัฐจะลงมาปราบเองเลย ซึ่งสหภาพพวกนี้ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ก็คือเป็นสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

แต่กลับกันพวกแรงงานในรูปแบบ "ช่าง" ต่างๆ ทั่วไปจะไม่มีหัวใฝ่แนวทางนี้ และจะรวมตัวเพื่อต่อสู้เรื่องค่าแรงกับ "นายจ้าง" อย่างตรงไปตรงมาเป็นหลัก ไม่เรียกร้องอะไรกับ "รัฐ" และสหภาพจำนวนไม่น้อย มีการรวมตัวกันมายาวนานก่อนจะมีประเทศสหรัฐอเมริกาอีก

สหภาพแรงงานท่าเรือ คือหนึ่งในนั้น แรงงานท่าเรือมีประวัติการรวมตัวมาตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และก็มีประวัติการต่อสู้มาเรื่อยๆ และนี่ก็เป็นสหภาพที่ "อยู่เป็น" ในช่วงปราบคอมมิวนิสต์ คือตีตนออกห่างสหภาพที่เอียงไปทางคอมมิวนิสต์ที่สุดท้ายถูกรัฐปราบ อย่าง Industrial Workers of the World อย่างชัดเจนในช่วงรอยต่อของศตวรรษที่ 19 กับ 20

พอรอดจากการปราบคอมมิวนิสต์ระลอกนั้นได้ สหภาพก็ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องไปยาวๆ ในทศวรรษ 1930 ในช่วง The Great Depression คนไม่มีงานทำมาเป็นคนงานท่าเรือเพิ่มมหาศาล สมาชิกสหภาพก็ขยาย ส่วนรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาก็เพิ่มอำนาจในการกำกับดูแลธุรกิจมหาศาล และออกกฎหมายเพิ่มอำนาจให้สหภาพเต็มไปหมด และในทศวรรษ 1940 สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาขยายตัวสุดๆ และส่งออกนำเข้าเพิ่มกระจุยกระจายทำให้สหภาพแข็งแรงมาถึงทุกวันนี้

ทีนี้ ในช่วงทศวรรษ 1930 มันไม่ได้ทำให้  International Longshoremen's Association ขยายตัวเท่านั้น แต่การเมืองภายในสหภาพที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เลยทำให้สหภาพแตกเป็น 2 หรือเกิด International Longshore and Warehouse Union ที่แยกตัวไปเป็นสหภาพแรงงานท่าเรือฝั่งท่าเรือตะวันตก และ 2 สหภาพก็แยกกันถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็ลองคิดง่ายๆ ว่าจำนวนของแรงงานมันมากจนสหภาพแยกเป็น 2 สหภาพได้ มันคือแรงงานจำนวนมหาศาลมาก และนี่คือเราพูดถึงสมาชิกสหภาพหลักแสนคนของแต่ละสหภาพ

ทีนี้ตัดมาเรื่องปัจจุบันของเรา ในปี 2023 ซึ่งเป็นปีที่ International Longshore and Warehouse Union ของคนงานท่าเรือฝั่งตะวันตกสามารถต่อรองค่าแรงเพิ่มขึ้นได้ 32% นี่เลยทำให้คนงานท่าเรือฝั่งตะวันออกมีรายได้น้อยกว่า และคนงานท่าเรือฝั่งตะวันออกก็รอจังหวะในการประท้วงเพื่อต่อรองเรื่องค่าแรง

"จังหวะ" ที่ว่าก็มาตอนสัญญาค่าแรงคนงานท่าเรือฝั่งตะวันออกหมดในวันที่ 30 กันยายน 2024

ทำไมนี่คือ "จังหวะ" เอาง่ายๆ คือ สหรัฐอเมริกากำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในต้นเดือน พฤศจิกายน 2024 หรือนี่คือการ "ประท้วงใหญ่" ก่อนเลือกตั้งไม่ถึง 2 เดือน และถ้ารัฐไม่ลงมาช่วยเคลียร์หรือทำอะไร เศรษฐกิจอเมริกาจะหยุดนึ่ง เพราะสินค้าที่เข้ามาฝั่งท่าเรือตะวันออก คือสินค้าฝั่งยุโรป ไม่น้อยคือวัตถุดิบในการประกอบรถยนต์ อันเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของอเมริกา ซึ่งหยุดงานไม่กี่วันของพวกนี้ยังไม่ขาดแน่ๆ แต่ถ้าลากเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน หมายถึงเศรษฐกิจอเมริกาจะเป็นอัมพาตก่อนการมีการเลือกตั้ง และนั่นคือสิ่งที่รัฐบาลกลางไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่นอน

ทั้งหมดน่าจะเป็นเหตุผลที่ "ดีล" เรื่องค่าแรงเกิดเร็วมาก โดยตัวเลข 62% นี้ว่ากันว่าคือ การ "ต่อรอง" เพราะฝั่ง International Longshoremen's Association ต้องการค่าแรงเพิ่มประมาณ 70% ส่วนฝั่งสมาคมนายจ้างทั้งหลายตอนแรกยินดีจะเพิ่มค่าแรงให้ราว 50% เท่านั้น และหลังจากต่อรองกัน ตัวเลขเลยออกมา 62% อย่างที่ว่า

แน่นอนว่า ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและราบรื่นมาก เมื่อเทียบกับการประท้วงของ "นักเขียนบท" Writers Guild of America ที่ประท้วงหยุดงานเป็นเวลากว่า 4 เดือนในปี 2023 กว่าจะได้ข้อยุติคือเหมือนเป็นการประท้วงของคนละประเทศ

แต่นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า ถ้าสหภาพมีความแข็งแรงจริง และข้อต่อรองสมเหตุสมผล การต่อรองเพิ่มค่าแรงมันจะเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นมาก เพราะสุดท้าย สหภาพที่ทำงานจริงๆ จะเข้าใจการเรียกร้องที่สมเหตุสมผลกับ "รายได้" ของฝั่งนายจ้าง โดยก็ต้องเข้าใจว่าการจะมาถึงจุดนี้มันไม่ได้อยู่ดีๆ ลุกขึ้นมาประท้วงแล้วได้เลย เพราะทั้งหมดมันคือ กระบวนการนั่งโต๊ะเจรจาเรื่องค่าแรงของฝั่งสหภาพกับฝั่งนายจ้างทุกๆ 5-6 ปีที่ดำเนินมาเป็น 100 ปีแล้ว

ทั้งนี้ค่าจ้างที่ว่าเพิ่มขึ้นมา 62% นั้น คือ คิดจากค่าแรงสูงสุดของคนที่ประสบการณ์ทำงานอย่างต่ำ 6 ปี ซึ่งขึ้นจากเดิมชั่วโมงละ 39 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,300 บาท) เป็นชั่วโมงละ 63 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,100 บาท) โดยค่าแรงของแรงงานที่ประสบการณ์น้อยกว่าในสหภาพก็จะได้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน กล่าวคือ จากเดิมเงินเดือนคนงานท่าเรือเร่ิมต้นที่ 20 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง (ประมาณ 670 บาท) ก็จะเพิ่มเป็นประมาณ 32 เหรียญต่อชั่วโมง (ประมาณ 1,070 บาท)


อ้างอิง
The massive dock workers’ strike, explained
Dockworkers strike suspended, tentative agreement includes 62% pay raise over 6 years 
How much do dockworkers make? What to know about wages amid ILA port strike 
Everyone Is Getting the Dockworkers Strike All Wrong 
Overview of ILA History
International Longshoremen's Association
List of labor unions in the United States
 


อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน