งานวิจัยล่าสุดเผย การเขียนหนังสือด้วยลายมือ มีข้อดีมากกว่าการใช้คีย์บอร์ด โดยเฉพาะในเรื่องของความจำ การพัฒนาสมอง รวมถึงช่วยพัฒนาคุณภาพของงานเขียนของเราเอง
ศิลปะการเขียนหนังสือด้วยมือมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วรรณกรรมที่โด่งดังและสำคัญเกือบทั้งหมดก็ล้วนแต่เขียนขึ้นด้วยลายมือ จนมาถึงยุคที่เริ่มมีเครื่องพิมพ์ดีดใช้เมื่อกลางทศวรรษที่ 1880 หลายคนมองว่า การเขียนหนังสือด้วยลายมือกำลังจะตาย และคำพูดนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันในยุคของคอมพิวเตอร์
ทุกวันนี้ มีโรงเรียนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาที่ไม่สอนการคัดลายมืออีกแล้ว แต่กระนั้นการเขียนบนกระดาษกลับส่งผลดียิ่งหลายประการ
การเขียนด้วยลายมือ ไม่เพียงแต่มีส่วนสำคัญต่อการประมวลผลและความจำเกี่ยวกับภาษา แต่ยังช่วยในการพัฒนาการรับรู้ ในการเขียนหนังสือด้วยมือ สมองของเราจะมีการทำงานร่วมกันของประสาทสัมผัสต่างๆ ทั้งการควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะและการคิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับการพิมพ์ตัวหนังสือด้วยคีย์บอร์ด
มีการศึกษาที่พิสูจน์ถึงผลดีของการเขียนหนังสือด้วยมือ การศึกษาของมหาวิทยาลัยโตเกียวในปี 2021 พบว่า การเขียนบนกระดาษช่วยให้นักศึกษาเรียกคืนความจำต่างๆ ได้ดีกว่าการพิมพ์จากคีย์บอร์ด
เช่นเดียวกับการศึกษาเมื่อปี 2014 ของสมาคมจิตวิทยาของสหรัฐ ที่พบว่า การจดโน้ตด้วยคอมพิวเตอร์แล็ปทอป นำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ที่ผิวเผินกว่า เพราะนักศึกษามักพิมพ์แบบคำต่อคำ ซึ่งไม่ทำให้เกิดกระบวนการประมวลผลข้อมูล ที่นำไปสู่การเขียนคำขึ้นใหม่ด้วยภาษาของตัวเอง ผลดีที่เกิดขึ้น คือ เราสามารถย้อนนึกถึงความหมายของสิ่งที่เขียนไว้บนกระดาษ
การศึกษาของ ดร.เวอร์จิเนีย เบอร์นิงเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการศึกษาเด็ก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่า การเขียนด้วยลายมือแทนการพิมพ์ยังช่วยให้ผลคะแนนสอบของนักเรียนออกมาดีกว่า โดยที่เด็กๆ จะเขียนเรียงความได้ยาวและซับซ้อนกว่าเมื่อเขียนด้วยลายมือ ซึ่งตรงข้ามกับการใช้คีย์บอร์ด
“เด็กๆ เขียนเรียงความได้ดีกว่าเมื่อเขียนด้วยปากกา พวกเขาจะเขียนได้ยาวและไวกว่า” ศาสตราจารย์เวอร์จิเนีย กล่าว
อ้างอิง
Writing by Hand Can Boost Memory and Understanding
The Many Mighty Benefits of Writing By Hand