ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร คุณพ่อชาวไนจีเรียจึงสามารถตั้งชมรม “father-to-father” ขึ้น เพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลการมีส่วนร่วมดูแลภรรยาและลูกๆ ให้มีโภชนาการที่ดีเป็นขั้นต้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทางวัฒนธรรมและเพศสภาพ

เช่นเดียวกับคุณพ่อหลายคนในแถบชนบทของประเทศไนจีเรีย โมฮัมเม็ด บูการ์ ไม่รู้ว่าภรรยาที่ตั้งครรภ์ของเขาต้องรับประทานอาหารที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเธอและลูกในท้อง ขณะเดียวกัน ผู้ชายเหล่านี้ก็ไม่เคยช่วยเหลือและดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน เนื่องจากบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมที่ระบุว่า "ผู้ชาย คือ ผู้หาเลี้ยงครอบครัว และผู้หญิง คือ ผู้ทำงานในบ้านทั้งหมด"

หลังการผงาดขึ้นมาของกลุ่มก่อการร้าย โบโก ฮารัม ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในภูมิภาค เกิดเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ทำให้ผู้คนมากกว่า 7 ล้านคน ใน 4 รัฐทางเหนือของประเทศไนจีเรีย ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด โดยเฉพาะเด็กๆ

มีการคาดการณ์ว่า เด็กชาวไนจีเรียกว่า 400,000 คน มีภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลัน แม้ FHI360 องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานเพื่อทำให้คนเข้าถึงโอกาสในการมีชีวิตที่ดี จะมีความพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่ผู้หญิงในพื้นที่เรื่องโภชนาการที่เหมาะสมของเด็กๆ แต่พวกเขากลับพบว่า ผู้หญิงมากมายในไนจีเรียถูกสามีสั่งห้ามเข้าร่วมการฝึกอบรม FHI360 จึงมองว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้

โซโลมอน อาทูแมน ผู้ประสานงานด้านโภชนาการของ FHI360 ระบุว่า ผู้ชายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสามี พ่อ ปู่ หรือแม้แต่ลูกชายก็ตาม มักสั่งห้ามผู้หญิงเข้าร่วมการอบรมเรื่องการเลี้ยงลูกและภาวะโภชนาการของเด็ก บางคนเชื่อว่าคอเลสเตอรอลเป็นอันตรายต่อทารก จึงไม่ควรให้นมแม่แก่ทารกแรกเกิด

“แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความรู้หรือทักษะในการดูแลเด็ก พวกเขาก็จะเป็นคนตัดสินใจว่าผู้หญิงต้องดูแลเด็กอย่างไร” อาทูแมน กล่าว

จากปัญหาที่ฝังรากลึกนี้ ทำให้ FHI360 จัดตั้งชมรม 484 “father-to-father” เพื่อให้พ่อๆ ชาวไนจีเรียได้รับข้อมูลด้านสุขภาพที่ถูกต้อง พร้อมกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการดูแลแม่และเด็ก ชมรมจะแบ่งคุณพ่อออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 15 คน โดยจะมารวมตัวกันเดือนละ 2 ครั้งเพื่อเรียนรู้ พูดคุย และหารือในหัวข้อต่างๆ เช่น ความสำคัญของหลักปฏิบัติด้านสุขอนามัย การเริ่มให้นมลูก และโภชนาการของมารดา นอกจากนี้ เหล่าคุณพ่อยังเริ่มมีบทบาทช่วยเหลือครอบครัวด้วยการทำงานบ้านอีกด้วย

“ถ้าผู้หญิงต้องทำหน้าที่ทำความสะอาด ทำงานบ้าน หาฟืน พวกเธอก็จะมีเวลาจำกัดในการดูแลลูก” อาทูแมนกล่าว

มากกว่าร้อยละ 96 ของครัวเรือนที่คุณพ่อเข้าร่วมชมรม กลายเป็นครัวเรือนที่มารดาเป็นผู้ให้นมบุตรเพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติของการมอบสารอาหารที่ดีที่สุดในช่วง 6 เดือนแรกของทารก และคุณพ่ออย่างบูการ์ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการของเด็กได้

“เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทั้งพ่อและแม่ต้องมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก ผู้หญิงต้องการการสนับสนุนจากคนรัก แม้บางครั้งจะเป็นแค่การช่วยทำงานบ้าน หรือการพาเธอหาหมอตามที่หมอนัดก็ตาม” ผู้ประสานงาน FHI360 กล่าว

อ้างอิง
Father-to-father support groups in northern Nigeria: An emergency response initiative
To improve maternal, newborn and child health, don’t forget fathers
How Nigeria Turned Men Into Better Fathers