Skip to main content

งานวิจัยชิ้นใหม่จากองค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่ง เผยว่าเด็กๆ มักพึ่งพาสัญชาตญาณของตนเอง เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่อความปลอดภัยทางออนไลน์ และเด็กส่วนใหญมักรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อเจอปัญหาต่างๆ บนโลกออนไลน์

แม้ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะรู้และเข้าใจถึงอันตรายบนโลกออนไลน์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กๆ ในบ้าน  แต่งานวิจัยชิ้นล่าสุดขององค์กรพัฒนาเอกชน ECPAT International, Eurochild และ Terre des Hommes Netherlands พบความจริงที่น่าอึดอัดใจเกี่ยวกับการปล่อยเด็กๆ ไว้กับอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เด็กๆ จะเข้าถึงอันตรายที่อยู่บนโลกดิจิทัล

งานวิจัยชิ้นนี้ทำการสนทนากับเด็ก 483 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก และพบว่าเด็กส่วนใหญ่มักจะเก็บเรื่องราวและกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขาไว้เป็นความลับ โดยที่ไม่รู้จะบอกกับผู้ใหญ่อย่างไรเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับปัญหาหรือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ ขณะที่เด็กบางส่วนระบุว่า พวกเขาเลือกที่จะเล่าปัญหาให้ผู้ปกครองฟังแค่บางส่วนเท่านั้น

ปัญหาที่เด็กๆ มักจะพบเจอบนโลกออนไลน์ ได้แก่ การกลั่นแกล้ง เนื้อหาที่มีความรุนแรง ภาพโป๊เปลือย หรือเรื่องราวที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพจิตของเด็ก อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาใน 15 ประเทศ พบว่าการล่วงละเมิดทางเพศและการแสวงหาผลประโยชน์ทางออนไลน์ เช่น การกรูมมิ่ง สื่อทางเพศ และไลฟ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่และรุนแรงมากที่สุดสำหรับเด็กและเยาวชน

“เราพบว่าเด็กๆ รู้สึกโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเรื่องการดูแลความปลอดภัยจากการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ รวมถึงการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก แต่เราก็เห็นพฤติกรรมของเด็กๆ ว่า พวกเขาพยายามเซ็นเซอร์ตัวเอง พวกเขาตระหนักรู้ถึงอันตรายและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่พวกเขาขาดเครื่องมือและข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ” เอวา นอตเต้ เจ้าหน้าที่ขององค์กร Terre des Hommes Netherlands กล่าว

นอกจากนี้ เด็กที่เข้าร่วมงานวิจัยยังเรียกร้องมาตรการความปลอดภัยออนไลน์ ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกัน โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัว โดยขอให้ใช้แนวทางการออกแบบที่ปลอดภัยและการตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เนื่องจากเด็กๆ มักจะแสวงหาความเป็นอิสระในการตัดสินใจด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับความรู้สึกมีอำนาจในการสำรวจพื้นที่ออนไลน์ ทว่า เด็กๆ ยังจาดการได้รับคำแนะนำ ความรู้ และเครื่องมือสำหรับการดำเนินการแบบนั้น

“งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเสียงของเด็กๆ มีพลังมากแค่ไหน และเด็กๆ ก็ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญ ที่ทำให้เราต้องจัดลำดับความสำคัญในกระบวนการออกกฎหมาย เราแสดงให้เห็นมุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำของเด็กๆ ซึ่งนั่นจะนำทางให้เราไปสู่แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ ที่ผู้มีอำนาจจะไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป” นอตเต้ กล่าวปิดท้าย

 

อ้างอิง
New study reveals: children left alone to deal with online dangers\

Children left to rely on ‘instinct’ to protect themselves from online harm, new study finds