ข้อมูลจากระบบ ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) ของกระทรวงสาธารณสุข เผยให้เห็นถึงจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยที่ป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศของปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 8 มี.ค.พบว่ามีผู้ป่วยแล้ว 1,757,958 ราย โดยเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

สอดคล้องกับคำเตือนจากกรมอนามัย ที่ออกคำเตือนเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ให้ 9 จังหวัดภาคเหนือต้องเฝ้าระวังภาวะฝุ่นพิษ ซึ่งอยู่ในระดับรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ อ.เชียงดาว สูงถึง 163.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 6.5 เท่า
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ PM2.5 ใน 9 จังหวัดภาคเหนือยังคงอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก

จากข้อมูลของระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) เผยด้วยว่า อัตราป่วยของประชาชนอันเนื่องจากโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศสูงกว่า 2,644 ต่อแสนประชากร โดยส่วนใหญ่เป็นการเจ็บป่วยในกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ รองลงมา คือ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ

รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศทำห้องปลอดฝุ่น โดยปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด เพื่อป้องกันอากาศจากภายนอกเข้าไปในห้อง รวมกับการใช้เครื่องฟอกอากาศ หรือใช้เครื่องเติมอากาศ เพื่อเติมอากาศสะอาดเข้าไปให้ห้อง ซึ่งควรอุปกรณ์ดังกล่าวควรมีขนาดที่เหมาะสมกับห้อง