เทศบาลท้องถิ่นใน จ.ดุซเจ ของตุรกี ขุดพบรูปสลักหินอ่อนศีรษะกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกยุคโบราณ “อเล็กซานเดอร์มหาราช”
การจุดพบนี้ พบที่โรงละครโบราณชื่อ พรูเซียส แอด ไฮเปียม ใน จ.ดุซเจ ทางตะวันตกของประเทศตุรกี โดยรูปปั้นศีรษะของอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ขุดพบ วัดความยาว 23 ซม. และมีอายุย้อนกลับไปถึงคริสตศตวรรษที่ 2
อเล็กซานเดอร์มหาราช หรือกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย มีชีวิตอยู่ในช่วง 336-323 ปีก่อนคริสตกาล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการทหารที่ยิ่งใหญ่ ชาญฉลาด และโหดเหี้ยม เป็นผู้สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคโบราณ
ช่วงวัยเด็ก อเล็กซานเดอร์ ได้รับการศึกษาจาก "อริสโตเติล" นักปรัชญาชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งจุดประกายให้เขาสนใจวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ การแพทย์ และปรัชญา
อเล็กซานเดอร์ ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งมาซิโดเนีย ด้วยวัยเพียง 20 ปี หลังกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 ผู้เป็นบิดาถูกลอบสังหาร
อเล็กซานเดอร์ โค่นล้มอาณาจักรเปอร์เชีย ปลดปล่อยอียิปต์ ตั้งเมืองอเล็กซานเดรียขึ้นตามชื่อของเขา และเป็นเมืองท่าสำคัญที่มีความเจริญทางด้านศิลปะวิทยาการและการค้า โดยส่งปโตเลมี องครักษ์และเพื่อนสนิทชาวกรีกของอเล็กซานเดอร์ให้เป็นผู้ปกครองอียิปต์ ต่อมาสถาปนาเป็นราชวงศ์ปโตเล ปกครองอียิปต์ต่อเนื่องไปอีกราว 300 ปี
อเล็กซานเดอร์ขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวาง จากอียิปต์ไปจนถึงแบคเทรีย หรืออัฟกาสถาน มุ่งหน้าไปทางตะวันออกสู่อินเดีย ถึงปัญจาบหรือปากีสถานในปัจจุบัน เขาได้วางรากฐานอารยธรรมกรีก หรือวัฒนธรรมเฮเลนิก แผ่ขยายออกไปยังดินแดนต่างๆ ที่พิชิตได้
หลังกองทัพติดตามเขาพิชิตดินแดนต่างๆ และห่างจากบ้านเกิดเป็นเวลา 10 ปี ได้พากันปฏิเสธที่จะช่วยเขาพิชิตดินแดนต่อไป อเล็กซานเดอร์จึงเดินทางจากอินเดียกลับสู่บาบิโลน และเสียชีวิตในอีก 2-3 ปีต่อมาวัยเพียง 32 ปี โดยไม่มีทายาทสืบทอด ปัจจุบันไม่มีข้อสรุปชัดเจนถึงการเสียชีวิตของเขา หลายคนสันนิษฐานว่าเขาถูกลอบวางยาพิษ บ้างว่าเขาเสียชีวิตจากโรคมาลาเรียหรืออาการเจ็บป่วยตามธรรมชาติ บ้างระบุเขาเสียชีวิตเพราะการดื่มสุราอย่างหนักและตรอมใจ
อย่างไรก็ดี อเล็กซานเดอร์ถูกจดจำในฐานะของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และผู้พิชิตดินแดนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคโบราณ