Skip to main content

ยุรี อร่ามแสง อายุ 71 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ พร้อมลูกและหลานชาย เข้าร้องขอความเป็นธรรม พร้อมนำหลักฐานใบตรวจร่างกายที่ถูกทำร้ายเข้าพบตำรวจที่สน.นางเลิ้ง  หลังนั่งขายลอตเตอรี่แล้วถูกทหารยศ จ.ส.อ. เข้ามาข่มขู่และขับไล่ จนมีปากเสียงถึงขั้นทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านสะดวกซื้อ หลังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนประชาธิปไตย แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร

ยุรี กล่าวทั้งน้ำตา ขายลอตเตอรี่และไก่ทอดบริเวณนี้มานานกว่า 10 ปี ช่วงหลังทำไก่ทอดไม่ไหวเลยหันมาขายลอตเตอรี่เพียงแผงเล็กๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ วันที่ 7 มีนาคม เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะนั่งขายลอตเตอรี่อยู่บนทางเท้า บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ  จู่ๆ มีทหารยศ จ.ส.อ. มาไล่ไม่ให้ขายตรงนี้ เพราะตนขายลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท ตามกฎหมาย ทำให้ทหารคนดังกล่าวไม่พอใจ หาว่าไปขายตัดราคา เพราะเขาก็ขายย่านบางขุนพรหม ทำให้ทุกครั้งที่มานั่งขายลอตเตอรี่ จะถูก จ.ส.อ. คนนี้ด่าด้วยคำหยาบคายและขับไล่ตลอดให้ไปขายที่อื่น จึงโต้เถียงกลับไป ยืนยันจะขายตรงนี้ เมื่อกลับมาบ้านเล่าให้ลูกกับหลานฟัง ต่างก็เป็นห่วงความปลอดภัยของตน พร้อมตัดพ้อขายลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท ถูกกฎหมายผิดมากหรือถึงต้องถูกทำร้ายขนาดนี้ อยากขอความเป็นธรรม

ด้าน อมรรัตน์ อร่ามแสง ลูกชาย เปิดเผยว่า ปกติตนจะขายลอตเตอรี่ย่านสำเพ็ง เยาวราช แต่แม่จะขายแถวบางขุนพรม จนแม่เล่าให้ฟังมีการโต้เถียงไล่ไม่ให้ขายลอตเตอรี่ หลานชายจึงไม่สบายใจวันรุ่งขึ้นจึงตามไปด้วย เมื่อลูกค้ามาซื้อแต่ของแม่จึงเกิดมีปากเสียงกันทะเลาะวิวาทกันขึ้น ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ส่วนตนกำลังจะไปรับแม่กลับ  ก็เจอเหตุการณ์พอดีจึงรีบเข้าช่วยเหลือ แต่กลับถูกหมวกกันน็อคฟาดที่แขนอย่างแรง /ส่วนแม่ถูกภรรยาคู่กรณีบีบแขน เขียวจ้ำไปทั้งแขนซ้าย มือซ้ายถลอกมีเลือดออก /หลานชายถูกขวดน้ำฟาดที่นิ้วมือข้างซ้ายหัก จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจึงเจ้าแจ้งความที่สน. ชนะสงคราม ส่วนคู่กรณีไปแจ้งความ สน.นางเลิ้ง หาว่าพวกตนรุมทำร้าย

วันนี้จึงมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นทหารและกลัวจะมีอิทธิพล ที่ผ่านมาเคยเห็นหน้าเห็นตาแต่ไม่เคยพูดคุยกัน ต่างคนต่างขาย ยืนยันไม่ได้รุมทำร้ายเขาตามกล่าวอ้าง

ด้าน เอ อายุ 18 ปี หลานชาย เล่าว่า วันเกิดเหตุย่านั่งขายลอตเตอรี่อยู่ เห็น จ.ส.อ. ขี่จักรยานยนต์มาพร้อมภรรยา จึงเดินเข้าไปถามว่าเมื่อวานต่อว่าย่าทำไม แต่ จ.ส.อ. ได้ลงมาจากรถ ถอดเสื้อเครื่องแบบทหารออก และง้างมือต่อย ตนเลยต้องป้องกันตัวจนชุลมุนกัน แต่ภรรยา จ.ส.อ. ได้เดินมาใช้หมวกกันน็อกฟาดมาที่ข้อมือตน 2 จนกระดูกนิ้วชี้มือซ้ายหัก ต้องเข้าเฝือก

ขณะที่ พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้ง ระบุว่า วันนี้จะสอบปากคำยาย ลูกและหลาน และจะเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำถึงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี ส่วนที่ยายและหลานได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ชนะสงคราม พื้นที่เกิดเหตุ จะขอให้โอนคดีมารวมที่สน.นางเลิ้งเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งหลังได้ดูใบตรวจร่างกายที่ยายและหลานได้รับบาดเจ็บ จะแจ้งข้อหากับคู่กรณีทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ส่วนที่คู่กรณีที่ได้แจ้งความนายอมรรัตน์ ลูกชายในข้อหาทำร้ายร่างกายไว้นั้น  ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปถึงอัยการแล้วอยู่ระหว่างการพิจารณา

ทั้งนี้ การดูแลความปลอดภัยของยายและครอบครัว จะให้ยายเขียนคำร้องขอความคุ้มครองความปลอดภัย ส่งให้กับสน.ชนะสงคราม เพื่อให้เจ้าหน้าเฝ้าระวังตรวจตราเป็นพิเศษ เพื่อความปลอภัย

ขณะที่เจ๊น้อง (นามสมมติ) แม่ค้าใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ยุรี ขายไก่ทอดอยู่ติดกับร้านตน ส่วนนายทหารยศ  จ.ส.อ. เมื่อก่อนขายน้ำมะพร้าว และลอตเตอรี่อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เวลานายทหารไปทำงานบางทียุรีก็ไปเป็นธุระช่วยขายให้ จนช่วงหลังยุรี ได้โควตาลอตเตอรี่มาขายจึงมาตั้งแผงเล็กๆ ขายในราคา 80 บาท หลังจากนั้นนายทหารรายดังกล่าวก็มักจะเดินมาต่อว่า เหน็บแนม ว่ายายขายตัดราคาขนาดนี้ลูกค้าตนเองก็หายหมด ซึ่งเวลามีลอตเตอรี่ราคาถูกลูกค้าก็ต้องเข้าหาอยู่แล้ว ทำให้ลูกค้าฝั่งของนายทหารลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งลูกค้าดูลอตเตอรี่อยู่ที่แผงของนายทหาร แต่พอเห็นยายยุรีขายถูกก็เรียกให้ยายเข้าไปหาเพื่อดูเลขที่ต้องการ อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับนายทหารรายดังกล่าวก็เป็นได้ ซึ่งในวันที่ 3 มี.ค.65  ก่อเกิดเหตุทะเลาะกัน นายทหารก็ได้เดินมาต่อว่ายายยุรีถึงที่ตั้งแผง  จนกระทั้งวันที่7 มี.ค. ยายยุรีก็มาขายลอตเตอรี่ตามปกติโดยให้หลายชายมาอยู่เป็นเพื่อน จึงเกิดมีปากเสียงกับนายทหารรายดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ลงไม้ลงมือกัน

พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึง กรณีที่ปรากฎข่าวหญิง อายุ 71 ปี ผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท เข้าร้องเรียน ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกับทหารชั้นประทวนเกี่ยวกับการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล บริเวณ ถ.ประชาธิปไตย แขวงบางขุนพรหม เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) นั้น กองทัพบกรับทราบข่าวดังกล่าว และได้ตรวจสอบแล้ว บุคคลดังกล่าวเป็นนายทหารชั้นประทวน สังกัด กรมกำลังพลทหารบก ขณะนี้ต้นสังกัดได้เรียกเจ้าตัวมาให้ข้อมูลและตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นแม้เป็นเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างบุคคล แต่เมื่อเกิดการร้องเรียนว่ามีการใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบเกินกว่าเหตุและไม่เหมาะสม ทางต้นสังกัดจะได้พิจารณาลงโทษตามวินัยทหาร ตามพฤติกรรมที่ปรากฎต่อไป  ส่วนการแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย 

อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ และได้มีการเชิญผู้ร้องเรียนมาพูดคุย รับทราบข้อมูลและความวิตกกังวล พร้อมให้การช่วยเหลือคลี่คลายเรื่องราวตามสมควรต่อไป