วันที่ 28 มี.ค. 2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ปานศิริ มีผล อดีตทหารนอกราชการ นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 13 นำ สิรพัชญ์ ปฏิพัทธวินิจ พร้อมด้วย พัฒนฉัตร เลิศอำไพนนท์ สามี นำพวงมาลัยเข้าขอขมา พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จากกรณีที่ สิรพัชญ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อAmilie siraphat patipattawinij กล่าวหา กำลังพลกองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค. 64 ว่าบินไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยมี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก พร้อมด้วย พล.ต.อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการกองทัพบก เป็นผู้รับมอบ
สิรพัชญ์ กล่าวว่า ไปส่องทวิตเตอร์และรับทราบในสิ่งที่ผิดๆ ว่าทหารไทยไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ ด้วยความที่อินกับข่าวจึงนำมาโพสต์ต่อ จากนั้นได้รับทราบความจริงก็ลบโพสต์ทันทีว่าทหารไทยไม่ได้ไปฉีดวัคซีนแต่ไปร่วมฝึกกับทหารสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ได้ลบโพสต์ไปแล้วก็มีปัญหาเข้ามาโดยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ต้องเข้าใจว่าในช่วงนั้นวัคซีนขาดแคลนในประเทศไทย และตนก็ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้เมื่อได้รับการแชร์ข่าวดังกล่าวมาก็รู้สึกว่าทำไมทหารถึงบินไปฉีดวัคซีนได้ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้จึงติดต่อขอโอกาสมาขอขมา ผบ.ทบ.ว่าเรารู้ข้อเท็จจริงแล้วก็ยินดีปรับปรุงตัวและช่วยประชาสัมพันธ์ชี้แจงข่าวที่เป็นจริงของกองทัพบกว่าเฟกนิวส์มีอยู่จริง ทั้งนี้ฝากเตือนน้องๆ เด็กยุคใหม่ว่าการที่จะส่งต่อโพสต์หรือแชร์ต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนไม่ใช่โพสต์เพื่อสนุกปากหรือเรียกยอดไลท์ยอดแชร์
"ยอมรับว่าหลังถูกดำเนินคดีมีผลกระทบต่อความรู้สึก และชีวิตประจำวันมากซึ่งตัวเองไม่ได้มีเจตนาจะบิดเบือนเรารับทราบข่าวมาอย่างไรแล้วก็โพสไปอย่างนั้นแพร่กระจายไปตามที่เราข่าวที่เรารับทราบมา" สิรพัชญ์ กล่าว
ด้าน พล.อ.ปานศิริ กล่าวว่า รู้จักกับแม่ของสามี สิรพัชญ์ จึงเข้ามาเป็นตัวกลางประสานให้ เพราะรู้ว่าทั้งหมดเป็นความทุกข์อย่างแสนสาหัส จากกรณีแค่นี้หลังที่ได้รับเฟกนิวส์มาสั้นๆ แต่ผลที่ตามมารุนแรงต่อชีวิตประจำวันของเขาสิ่งที่คิดคือเราเป็นคนไทยด้วยกันก็น่าจะพูดคุยกันได้จากปัญหาของเขาตนจึงได้ประสานมาที่กองทัพบก
ขณะที่ พล.ต.อานุภาพ กล่าวว่า การที่กองทัพบกฟ้องดำเนินคดีเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ ไม่อยากให้สังคมส่วนใหญ่เข้าใจผิด การฟ้องร้องไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เมื่อน้องรับทราบความจริงแล้วมาขอโทษก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์และเป็นบทเรียน ทั้งนี้ถ้าเป็นการโพสต์พาดพิงตัวบุคคล หรือตัว ผบ.ทบ. ไม่ได้ดำเนินการอะไร ยกเว้นที่กระทบภาพลักษณ์ต่อกองทัพ ในขณะนั้น ก็ยอมรับว่าประเทศอยู่ในภาวะขาดแคลนวัคซีนทำให้มีผู้ไม่หวังดี นำเรื่องดังกล่าวมาปลุกปั่น ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกองทัพ ขยายผลเพื่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม
"กองทัพบกไม่ต้องการทำร้ายประชาชนหรือตั้งเป้าจะไปฟ้อง ทำให้เกิดคดีความและสร้างความเดือดร้อน แต่ถ้าไม่ดำเนินการ ก็จะกลายเป็นว่ากองทัพบกถูกถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนคนที่นำเฟกนิวส์มาโพสต์ต่อก็เหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะเป็นการโพสต์ด้วยความบริสุทธิ์ใจที่คิดว่าข้อมูลนั้นคือถูกต้อง ส่วนพวกเฟกนิวส์หรือพวกอวตาร ก็บรรลุความสำเร็จแล้วและไม่ได้มาเดือดร้อนเหมือนกับผู้โพสต์ที่ถูกดำเนินคดี” พล.ต.อานุภาพ กล่าว
ส่วน พล.ต.บุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้โพสต์ข้อความส่งผลกระทบถึงกองทัพบกเป็นจำนวนมากแต่ที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีมีอยู่ประมาณหลักสิบ เกี่ยวการหมิ่นประมาท ซึ่งบางส่วนก็เกิดในต่างจังหวัดก็ให้หน่วยทหารในพื้นที่เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี
เมื่อถามว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีที่มีการอภิปรายในสภาฯ พาดพิงกองทัพบกในห้วงที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.บุรินทร์ กล่าวว่า มีกรณีณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล นำเอกสารเท็จกล่าวหา กองทัพภาคที่2 ทำปฏิบัติการไอโอ เมื่อเดือนส.ค.2564
สำหรับการเข้าขอขมาในครั้งนี้ กองทัพบกได้มีเงื่อนไขให้ สิรพัชญ์ ลงภาพพร้อมข่าวการเข้าขอขมา ผบ.ทบ.ในเฟซบุ๊กชื่อ Amilie siraphat patipattawinij เป็นเวลา 7 วัน พร้อมนำข้อมูลดังกล่าวเรียน ผบ.ทบ.อนุมัติถอนฟ้องต่อไป