Skip to main content

สุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ได้เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟซบุ๊ก Suranand Vejjajiva โดยเปลี่ยนภาพปกพร้อมติด #ทีมสมคิด และ ว่า ตนได้พูดคุยกับอุตตม สาวนายน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าไปร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย แต่ช่วงประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ตนได้ตัดสินใจว่าน่าจะถึงเวลาที่จะต้องเข้าไปช่วยงานอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่ตนหันมาทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้ทำการเมืองกับใคร เมื่อปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง และการที่เป็นผู้ประกอบการทำให้เห็นปัญหามากมาย จึงคิดว่าหากสามารถกลับเข้าไปช่วยได้ ทั้งการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจในบางเรื่อง หรือเข้าไปช่วยงานในทางการเมืองบางเรื่อง พรรคสร้างอนาคตไทย จึงน่าเป็นพรรคที่น่าสนใจ

สุรนันทน์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับสมคิด จาตุสีพิทักษ์ มากว่า 30 ปี เมื่อสมคิดชักชวน จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับทางพรรคสร้างอนาคตไทย ส่วนที่สื่อออกไป ก็เป็นแฮชแท็กธรรมดาง่ายๆ แม้ว่าสมคิดจะยังไม่ประกาศตัวว่าจะกลับมาทำงานการเมืองหรือไม่ แต่ในใจของตน คนที่เหมาะสมที่สุดที่น่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งคือสมคิด เพราะโจทย์ของปีนี้ และปีหน้าที่ชัดเจนคือ การวางแผนเรื่องเศรษฐกิจ สมคิด เป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ผ่านมาทั้งรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแค่สมคิดยังไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง หากมีโอกาสที่สมคิดจะได้เป็นเบอร์หนึ่ง หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ เราก็คิดว่าสมคิดจะมีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ปัญหาและแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมคิด

สุรนันทน์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนเข้ามาช่วยดูแลนโยบายของพรรคไปก่อน ยังไม่ได้มีตำแหน่งที่ชัดเจนต้องรอการประชุมพรรคในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้ตนได้บอกกับอุตตม อย่างชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เพราะอยากทำเพียงแบ่งปันประสบการณ์ให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่มากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า สมคิด จะอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย ใช่หรือไม่ สุรนันทน์ กล่าวว่า ตนหวังเช่นนั้น เพราะยังไม่รู้อนาคตว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะยุบสภาเมื่อใด ขณะนี้นายสมคิดเป็นคนหนึ่งที่ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรค และช่วยแนะนำการชักชวนคนที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ เข้ามาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ตนหวังว่านาทีสุดท้ายนายสมคิด จะตัดสินใจเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถ้าตนมีโอกาสอยู่ในพรรคสร้างอนาคตไทยตนจะยกมือให้นายสมคิดเป็นแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามว่า การเสนอตัวเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หมายความว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีจุดอ่อนในเรื่องนี้อยู่ใช่หรือไม่ สุรนันทน์ กล่าวว่า ถือว่ายังมีจุดอ่อนเพราะรัฐบาลนี้อยู่มานาน โดยชุดความคิดที่สมคิด เคยวางไว้ในช่วงต้นของรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้ถูกสานต่ออย่างครบถ้วนเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางบุคลากรด้วยเหตุผลทางการเมือง ทำให้แผนเศรษฐกิจต่างๆ ชะงักไปประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทั่วโลก แต่การบริหารจัดการของรัฐบาลมีจุดอ่อนเยอะมากทำให้การดูแลระบบสาธารณสุขของประชาชนช่วงแรกมีปัญหา ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่ได้สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจระยะยาว และทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ และไปในทิศทางที่ถูกต้อง ดังนั้นตนคิดว่าแม้จะไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ อย่างน้อยหากรัฐบาลนำชุดความคิดของพรรคสร้างอนาคตไทยไปใช้ก็ยินดี เพราะเราไม่ได้คุยกันที่การแพ้หรือการชนะเลือกตั้ง แต่คุยกันว่าชุดความคิดทางเศรษฐกิจของใครที่จะช่วยแก้ปัญหาของประเทศ

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจว่าชุดความคิดทางเศรษฐกิจของสมคิด จะสามารถช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ใช่หรือไม่ สุรนันทน์ กล่าวว่า เท่าที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ตนคิดว่าประมาณ 90% หากได้เปิดนโยบายและนำไปสู่การปฏิบัติจริงสามารถทำได้ คือสามารถแก้ปัญหาระยะสั้นเกี่ยวกับปัญหาปากท้องได้ และสามารถวางพื้นฐานด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืนมากขึ้น