Skip to main content

‘พิธา’ บุกเมือง ‘ปากน้ำโพ’ ติดตามปัญหาน้ำท่วม-หนี้ท่วม-ราคาข้าวตกต่ำ ชูนโยบายแก้ปัญหาระยะยาว แนะ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ นำแผนที่ GISTDA มาใช้เพื่อเยียวยาประชาชนได้ทันท่วงที พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต มีทั้งอดีตสถาปนิก-นักธุรกิจ-เกษตรกร มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า ‘ก้าวไกล’ ปักธงที่ ‘นครสวรรค์’ ได้แน่

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาราคาข้าวตกต่ำในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

โดยพิธา กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามาเป็น ส.ส. ตนเองเคยเป็นนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวจึงมาที่จังหวัดนครสวรรค์บ่อยครั้ง และเข้าใจปัญหาความทุกข์ร้อนของพี่น้องเกษตรกรชาวนาเป็นอย่างดี จึงตั้งใจเข้ามาเป็นนักการเมืองเพื่อมาช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายได้อย่างยั่งยืนและมาแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาทั้งระบบของเรื่องข้าว ทั้งเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม เรื่องการเอารัดเอาเปรียบพี่น้องชาวนา ซึ่งตนรู้ว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว บางส่วนใช้กลโกงอะไรในการกดราคาข้าวจากชาวนา และยังทราบด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ราคาข้าวสูงขึ้นได้

พิธา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวนาไทยคือ มีต้นทุนการปลูกข้าวที่สูงมากทั้งราคาปุ๋ยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นประเทศที่ปุ๋ยแพงกว่าข้าว รวมไปถึงพี่น้องชาวนายังต้องเผชิญกับค่าน้ำมันที่สูงขึ้นมาก มีการเสียค่าน้ำมันเพื่อใช้สูบน้ำเข้านา หรือชาวนาบางคนที่ไม่มีที่ดินทำกินก็ต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่ดินด้วย รวมทั้งยังมีต้นทุนราคาเมล็ดพันธุ์ ซึ่งยังไม่นับว่ามีพี่น้องเกษตรกรชาวนาจำนวนมากมีหนี้สินจำนวนมากทำให้มีต้นทุนผ่อนชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น แต่กลายเป็นว่าต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาข้าวกลับราคาตกลงจนอยู่แค่ราคาเฉลี่ยเกวียนละประมาณ 5,000 - 6,000 บาทเท่านั้น

โดย พิธา กล่าวว่า การจะแก้ปัญหาทางเกษตรและปัญหาหนี้ให้เกษตรกรและชาวนาได้จำเป็นต้องมีรายได้ ระยะสั้นการประกันรายได้อาจจำเป็นแต่ไม่ยั่งยืน ในอีกระดับหนึ่งก็ต้องมีการก็อุดหนุนต้นทุนให้กับพี่น้องชาวนา และหากจะแก้ไขปัญหาได้ยั่งยืนที่สุดก็จำเป็นต้องยกระดับการผลิต เป็นเกษตรอินทรีย์ เกษตรแปรรูป

“แท้จริงแล้วข้าวไทยมีศักยภาพแน่นอน เป็นทองคำบนดินที่มีราคา สามารถทำให้มีมูลค่าทั้งหมด ทุกส่วนได้ ทั้งปลายข้าว จมูกข้าว รำข้าว และแกลบ ต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิต เพิ่มมูลค่า ที่สำคัญต้องทำให้ความมั่งคั่งนี้ตกไปถึงมือชาวนาด้วย ไม่ใช่ตกอยู่ที่นายทุนเท่านั้น การจะทำเช่นนั้นได้รัฐต้องจัดสรรงบประมาณมาช่วยในการแปรรูป ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเป็นผู้ประกอบการได้ด้วย และมีช่องทางการตลาด” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ

หลังจากนั้น ชาวนาในพื้นที่หลายคนได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลฟังด้วยว่า ตอนนี้ข้าวเหลือราคาแค่เกวียนละ 6,000 บาทเท่านั้น แต่ต้นทุนการปลูกกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งราคาปุ๋ยที่พุ่งขึ้นสูงไปถึง 900 บาท หรือในกรณีราคาน้ำมันที่ราคาขึ้นไปอยู่ที่ 6,000 กว่าบาท ทั้งๆ ที่จากเดิมซื้อน้ำมัน 4,000 กว่าบาท เท่านั้นยังไม่พอชาวนาแต่ละคนยังมีหนี้นอกระบบ หนี้ ธ.ก.ส. กลายเป็นว่าทำมาเท่าไหร่ ยิ่งข้าวราคาตกแบบนี้ จ่ายได้แค่ดอกเบี้ย พอไม่มีกินก็ต้องไปกู้มาใหม่อีก

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังได้กล่าวด้วยว่า นิรุด เรืองงาม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 อำเภอชุมแสง พรรคก้าวไกลนั้นเป็นชาวนา เป็นเกษตรกรที่เข้าใจปัญหาของพี่น้องเกษตรกร เข้าใจพื้นที่เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่นั้นพรรคก้าวไกลยังมีกลุ่มคนที่หลากหลาย ที่ร่วมเข้ามาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ มีทั้งที่มาจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม พ่อค้าแม่ค้า ภาคเอกชน ผู้มีความหลากหลายทางเพศ เกษตรกร ชาวนา ผู้พิการ ฯลฯ จึงเป็นความภาคภูมิใจของพรรคก้าวไกล ที่สามารถรวบรวมคนที่หลากหลายเข้ามาช่วยกันคิด ช่วยกันสะท้อนปัญหาของประชาชน เพื่อนำไปสู่การขจัดทุกข์ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนได้ในที่สุด จึงอยากฝากให้ประชาชนช่วยกันเลือกพรรคก้าวไกลไปเป็นรัฐบาล บ้านเมืองของเราจะได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศไทยที่คนเท่ากัน เท่าทันโลกเสียที

หลังจากนั้น หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ทั้ง 3 เขต ประกอบไปด้วย เขต 1 กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี อดีตสถาปนิกและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รับสร้างบ้านแนวคิดใหม่ ประหยัดพลังงานและรองรับผู้สูงอายุ เขต 2 ธนา เฉยปัญญา เจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง และเขต 3 นิรุด เรืองงาม เกษตรกรชาวนาและค้าขายสินค้าตลาดนัดเปิดท้าย

ต่อมาในช่วงบ่าย หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางต่อไปที่ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อดูสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา โดยพิธา ได้กล่าวหลังการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตำบลเกยไชยว่า สิ่งที่ต้องทำเฉพาะหน้าคือ 1.หาอะไหล่ เครื่องสูบน้ำเตรียมไว้เพราะการเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมงอาจจะเกิดปัญหาเครื่องเสียได้ และทั้งๆ ที่พื้นที่กว้างใหญ่มีเป็นพันไร่ แต่ได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากหน่วยงานกลางมาแค่หนึ่งเครื่องเท่านั้น 2.ต้องจัดหาน้ำมันให้เพียงพอ เพราะทราบมาว่าในแต่ละวันจะใช้นำมัน 200 ลิตรต่อ 10 ชั่วโมงซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีงบประมาณจัดซื้อน้ำมัน เพราะในพื้นที่เกิดรอยต่อช่วงเลือกตั้ง อบต. ทางจังหวัดจึงจำเป็นต้องช่วยสนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้ด้วย 3.ข้อมูลการพยากรณ์อากาศเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะได้วางแผนรับมือว่าจะต้องใช้เครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือระดับน้ำในพื้นที่รับน้ำจะเพียงพอหรือไม่ ต้องรับมืออย่างไร

พิธา กล่าวว่า การจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมไปถึงน้ำแล้งได้ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีเส้นเลือดฝอยมากขึ้น เพราะลำพังการที่มีเส้นเลือดใหญ่คือเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเดียว ก็เห็นแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในหลายพื้นที่ต้องเจอกับสภาวะน้ำท่วมซ้ำซาก น้ำแล้วซ้ำซาก

“ระยะเร่งด่วน ประชาชนที่มีบ้านเรือนหรือมีพื้นที่ทำกินที่ถูกน้ำท่วมต้องได้รับการเยียวยาจากรัฐ จึงอยากฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำแผนที่ของ GISTDA มาใช้ดูประกอบ เพื่อกำหนดจุดและใช้วางแผน ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้รับเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด อย่างทันท่วงที ทั้งนี้จากข้อมูลดาวเทียม COSMO-SkyMed-1 บันทึกข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งระบุข้อมูลว่าทั้งจังหวัดนครสวรรค์ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 247,760 ไร่ ท่วมในพื้นที่อำเภอชุมแสงทั้งหมด 86,592 ไร่” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้าย

ก่อนเดินกลับหัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะ ได้ร่วมกันมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเบาเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง จนต้องอพยพหนีน้ำมาตั้งที่พักชั่วคราวบนที่สูงริมถนน