ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายประกาศเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 10 ส.ค.2564 เวลา 13:00 น.ที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ พร้อมติดแฮชแท็ก #ม็อบ10สิงหา แม้ค่ำวันที่ 9 ส.ค. ศาลอาญาเพิ่งจะมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว และสั่งคุมตัวแกนนำหลายราย รวมถึงนัดไต่สวน 'อานนท์-รุ้ง' อีกครั้งในวันที่ 7 ก.ย. โดยระบุว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล ขณะที่ 'ไผ่ จตุภัทร์' ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำจากกรณีชุมนุมทะลุฟ้าเมื่อ 3 ส.ค.

รายละเอียดการไต่สวนคดีเมื่อวานนี้ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัว คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง 'พริษฐ ชิวารักษ์' หรือเพนกวิน กับพวกรวม 22 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 10คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ซึ่งพริษฐ์ จำเลยที่ 1 ได้รับการประกันตัว โดยศาลตีราคาประกัน 7 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามพริษฐ์ จำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน คือ อานนท์ นำภา จำเลยที่ 2 เเละ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง จำเลยที่ 5 กระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก แต่เจ้าพนักงานระบุว่าพริษฐ์กับพวกกลับมากระทำผิดซ้ำอีก จึงยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่ง เพิกถอนการประกันตัวพริษฐ์ อานนท์ และปนัสยา เนื่องจากกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล

ศาลอาญาพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบที่เป็นภาพถ่ายของพริษฐ์ จำเลยที่ 1 ขณะชุมนุม พบว่ามีเจตนาด้อยค่าหรือลดคุณค่าขององค์พระมหากษัตริย์และจะมีผลเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด อันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ทั้งศาลเคยตักเตือนจำเลยที่ 1 และกำชับจำเลยที่ 1 ผ่านผู้กำกับดูแลมาแล้ว จึงให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ให้ผู้ประกันจำเลยที่ 1 คือ สุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของพริษฐ์ ส่งตัวจำเลยที่ 1 ต่อศาลภายใน 3 วัน โดยให้แจ้งคำสั่งให้ผู้ประกันจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ทราบ ส่วนอานนท์จำเลยที่ 2 และปนัสยา หรือรุ้ง จำเลยที่ 5 ให้ไต่สวนอีกครั้งวันที่ 7 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

นอกเหนือจากพริษฐ์ อานนท์ และปนัสยา ยังมี พรหมศร วีระธรรมจารี, แซม สาแมท, ณัฐชนน  ไพโรจน์, สิริชัย นาถึง, ชาติชาย  แกดำ, ภาณุพงศ์ จาดนอก, ปนัดดา ศิริมาศกุล และธนพัฒน์ กาเพ็ง ผู้ร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค. เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัว 'ไผ่' จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา โดยพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดเมื่อ 9 ส.ค. โดยระบุข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ทำให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดแลเข้มงวด ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่อ ร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่

ขณะที่ 'ไผ่ จตุภัทร์' ซึ่งร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 3 ส.ค. จัดกิจกรรม "รับเพื่อนทีมทะลุฟ้ากลับบ้าน" และขับไล่นายกรัฐมนตรี บริเวณหน้า สน.ทุ่งสองห้อง และมีการใช้สีแดงสาดใส่ป้ายชื่อ สน.ทุ่งสองห้อง จึงถูกแจ้งความดำเนินคดี และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ทำให้ไผ่และผู้ชุมนุมอีก 2 รายถูกคุมตัวเมื่อวันที่ 9 ส.ค. แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องของพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทุกคน โดยเฉพาะกรณีของไผ่ โดยระบุว่าได้ไปก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ในพื้นที่ต่างๆ รวม 12 คดี เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุซ้ำในลักษณะเช่นนี้ รวมทั้งไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ ด้วย ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาทั้ง 3 รายได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ส่วนไผ่จตุภัทร์ ผู้ต้องหาที่ 1 ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว