เจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นอกจากวัคซีนที่ต้องจัดหาในเร็วที่สุดแล้ว เรื่องด่วนต่อมาที่ต้องจัดการด้วยคือ สภาวะปิดกิจการของ SME ในประเทศที่กำลังเกิดขึ้น
โดยเจตุบัญชา ได้เสนอทางรอด SME และการแก้ปัญหาการตกงานได้ดีที่สุด และที่สำคัญทำได้จริง โดยให้รัฐบาลนำเงินกู้จากมาตรการเยียวยาเป็นจำนวน 100,000 ล้านบาทมาปล่อยในเงื่อนไข โดยมีเงื่อนไข 6 ข้อคือ
1.ให้ธนาคารพาณิชย์ ปล่อยวงเงินกู้ในอัตรา ที่เป็นสัดส่วนการจ้างงานคงเหลือ ในอัตรา 10 คนต่อวงเงิน 1 ล้านบาท เช่น ถ้ายังมีการจ้างงาน 30 คน จะได้วงเงิน 3 ล้านบาท เป็นต้น
2.ยกเลิกการพิจารณาจากเอกสาร ทั้งหลาย ให้พิจารณาจากการจ้างงาน โดยดูจากประกันสังคม อิงจาก การจ้างงานเดือน มิ.ย. เพราะเป็นปัจจุบันที่สุด มีการจ้างงานเหลือเท่าไหร่เอามาพิจารณาได้เลย ไม่ต้องใช้เอกสารอื่น
3.พิจารณาจาก SME ที่เจอสภาพขาดทุน ในปี 64 ก่อน ไม่ใช่ ดูจากธุรกิจที่กำไรเพราะพวกนั้นยังไม่จำเป็นต้องใช้ เงินกู้ เท่าคนที่ขาดทุนอยู่และใกล้ปิดกิจการ
4.รัฐบาลเป็นผู้ค้ำโครงการนี้ 100% ให้ธนาคารพาณิชย์กล้าปล่อยสินเชื่อ ให้ SME
5.อัตราดอกเบี้ย ในโครงการนี้เช่น 3% รัฐบาลช่วย ครึ่งนึง เหลือ 1.5% เป็นต้น เป็นเวลา 3 ปี สามารถปิดได้ก่อนกำหนด วงเงินกู้ในโครงการนี้ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย
6.พักชำระเงินกู้เดิมพร้อมดอกเบี้ย หลังจากนี้ โดยเฉพาะเงินกู้บ้านและรถยนต์เป็นหลัก ไปถึง สิ้นปี 64 โดยไม่มีเงื่อนไขแอบแฝง เพื่อกันปัญหาสังคมเรื่องการยึดบ้านยึดรถในช่วงนี้ทำให้คนที่ไม่มีรายได้
"จากที่กล่าวมาทั้งหมด รัฐบาล ไม่ต้องใช้เงินที่กู้มามาก..เท่าการแจกเงิน ดังที่ผ่านมา เพราะการแจกเงินผมย้ำมาตลอดไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เป็นการให้ปลา ไม่ใช่ให้เบ็ด สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือให้เบ็ดที่ชื่อ SME อยู่รอด เค้าจะสามารถสร้าง การจ้างงานต่อเนื่องได้เอง..."
"เพราะอย่าลืมนะครับว่า การประคองธุรกิจให้รอดในช่วงนี้ว่ายากแล้ว..การต้องกลับมาเปิดกิจการใหม่ในช่วงที่ต้องกลับมามันยากกว่าหลายเท่า.. เพราะถึงตอนนั้นถ้าคุณไม่มีทั้งเงินทุนและพนักงาน ก็เลิกคิดถึงการกลับมาได้เลยครับ..."