Skip to main content

สรุป

  • เจ้าของร้านเสื้อผ้าในเกาหลีใต้โพสต์วิดีโอขณะถูกภริยาทูตเบลเยียมประจำกรุงโซลตบหน้า เมื่อต้นเดือน เม.ย. เพราะไม่พอใจที่ถูกพนักงานเข้าใจผิดว่าขโมยเสื้อ
  • ตำรวจเกาหลีใต้บอกเจ้าของร้านว่าภริยาทูตจะไม่ถูกดำเนินคดีเพราะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกันตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ ทำให้ชาวเน็ตเกาหลีใต้เรียกร้องให้รัฐบาลไล่ทูตและภริยาพ้นประเทศ
  • ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้พบอุปทูตเบลเยียม ขอให้ภริยาทูตร่วมมือกับตำรวจในท้องที่เพื่อบันทึกข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  • เฟซบุ๊กสถานทูตเบลเยียมในกรุงโซลแถลงขออภัย แต่ชาวเน็ตวิจารณ์ “ไม่จริงใจ” เพราะปล่อยเวลาผ่านไปนานหลายวัน พร้อมเรียกร้องให้ภริยาทูตขอโทษคู่กรณีด้วยตัวเอง

เหตุตบตีที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เกิดขึ้นที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในกรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.2564 โดยสำนักข่าว Reuters และ South China Morning Post ให้ข้อมูลตรงกันว่า ผู้ก่อเหตุ คือ ‘เซียงเสว่ฉิว’ ภริยา ‘ปีเตอร์ เลส์กูแอร์’ เอกอัครราชทูตเบลเยียม ประจำเกาหลีใต้ ซึ่งไม่พอใจที่พนักงานร้านเสื้อผ้าในย่านยงซันเข้าใจผิดว่าเธอขโมยสินค้าไปจากร้าน

เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิด และเจ้าของร้านนำมาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์เพื่อเตือนภัยให้ร้านอื่นๆ ระมัดระวัง พร้อมทั้งอธิบายว่าในวันเกิดเหตุ เซียงเสว่ฉิวได้เดินดูสินค้าทั่วร้าน และออกจากร้านไปโดยไม่ได้ซื้ออะไร แต่พนักงานคนหนึ่งเห็นว่าเสื้อที่เธอใส่คล้ายกันกับสินค้าของทางร้าน จึงตามเธอออกไปขอคำชี้แจง เมื่อรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดจึงได้กล่าวคำขอโทษ 

อย่างไรก็ตาม เซียงเสว่ฉิวเดินกลับเข้ามาในร้าน พร้อมต่อว่าพนักงานคนดังกล่าว และเจ้าของร้านได้พยายามห้ามปราม แต่ถูกเซียงตบหน้าจนแก้มบวมแดงและถูกตบหลัง จึงแจ้งความกับตำรวจที่สถานียงซัน ภายหลังได้รับคำชี้แจงจากเจ้าพนักงานว่าอาจจะเอาผิดผู้ที่ก่อเหตุไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นภริยาทูตซึ่งได้รับเอกสิทธิ์คุ้มกัน ไม่ต้องถูกจับกุมหรือถูกกักตัว

หลังจากเจ้าของร้านโพสต์วิดีโอดังกล่าวในสื่อออนไลน์ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกาหลีใต้จำนวนมากสะท้อนความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ขับทูตและภริยาคนดังกล่าวออกจากประเทศ หรือไม่ก็ให้ภริยาทูตขอโทษผู้ที่ถูกตบโดยตรง และสื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ไปพูดคุยกับ ‘แพทริก เองเกลเบิร์ก’ อุปทูตเบลเยียม เพื่อขอความร่วมมือจากสถานทูตในการสอบสวนข้อเท็จจริง 

คำขอโทษที่ ‘ล่าช้า’ ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตเบลเยียมในเกาหลีใต้ ได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ BEinSeoul ในวันที่ 22 เม.ย. ระบุว่าเอกอัครราชทูต 'เสียใจอย่างสุดซึ้ง' ต่อเหตุการณ์ที่ร้านขายเสื้อผ้า และขออภัยแทนภริยา พร้อมย้ำ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุจากเรื่องใดก็ตาม การกระทำของภริยาของตนก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

BEinSeoul/ Facebook

พร้อมกันนี้ยังได้อธิบายด้วยว่าตำรวจเกาหลีใต้ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเซียงเสว่ฉิวไม่ได้ เพราะเธอมีอาการหลอดเลือดสมอง จึงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโซล ซึ่งสถานทูตเบลเยียมยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ แต่ไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติม เพราะจะได้ไม่กระทบต่อรูปคดี

ท่าทีของสถานทูตเบลเยียมไม่ได้ช่วยบรรเทาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะยังมีผู้เข้าไปคอมเมนต์ท้ายแถลงการณ์ในเฟซบุ๊กของสถานทูตอีกหลายราย โดยส่วนหนึ่งมองว่าคำขอโทษไม่จริงใจ เพราะปล่อยให้เวลาผ่านไปหลายวัน และบางรายมองว่าสถานทูตเบลเยียมไม่จำเป็นต้องออกหน้า แต่ควรให้ภริยาทูตเป็นฝ่ายขอโทษคู่กรณีโดยตรง 

ขณะที่สื่อดัตช์ Brussel Times และ De Morgen รายงานว่ากระทรวงการต่างประเทศเบลเยียมไม่มีความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ แต่ถ้ายึดหลักการในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต ถือว่าคนในครอบครัวของตัวแทนทางทูตจะได้เอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ไม่ถูกจับกุมหรือคุมขัง ทั้งยังรายงานด้วยว่า เซียงเสว่ฉิวมีเชื้อสายจีน และชาวเกาหลีใต้จำนวนมากมีทัศนคติเชิงลบต่อจีนอยู่แล้ว